ครม.ไฟเขียวเพิกถอน"พืชกระท่อม"พ้นจากบัญชียาเสพติด

2020-10-12 15:20:37

ครม.ไฟเขียวเพิกถอน"พืชกระท่อม"พ้นจากบัญชียาเสพติด

Advertisement

ครม.ไฟเขียวเพิกถอน "พืชกระท่อม" พ้นบัญชียาเสพติด พร้อมกำหนดมาตรการควบคุมเข้มข้น

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ตามที่ ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 มี.ค. โดยอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่... พ.ศ. ... เป็นการเพิกถอนพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และยกเลิกบทกำหนดโทษในความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อสังเกตเพิ่มเติม โดย ควรมีกฎหมายควบคุมพืชกระท่อมเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ อยู่ระหว่างการเข้าสู่การพิจารณาในวาระรับหลักการของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การใช้พืชกระท่อมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และไม่เปิดช่องให้มีการนำไปใช้ในเยาวชน ครม.จึงอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. ... ตามที่กระยุติธรรมเสนอ ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรการควบคุมพืชกระท่อม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพืชกระท่อม รวมถึงหา

นางสาวรัชดา ยังระบุถึงสาระสำคัญถึงแนวทางป้องกันไม่ให้มีการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด คือ 1.กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกพืชกระท่อม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท 2.ห้ามขายพืชกระท่อมให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และสตรีมีครรภ์ ห้ามใช้ จ้างวาน หรือยินยอมให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีขายพืชกระท่อม ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ห้ามมิให้ขายพืชกระท่อม ในสถานที่บางแห่ง เช่น โรงเรียน หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก หรือขายผ่านอินเตอร์เน็ต หรือเร่หาย ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท 3.ห้ามโฆษณาหรือทำการสื่อสารการตลาดพืชกระท่อม ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 500,000 บาท 4.ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เสพพืชกระท่อม และห้ามผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เสพพืชกระท่อมแบบ 4 x 100 รวมทั้งห้ามมิให้ผู้ใดยุยงส่งเสริมให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือสตรีมีครรภ์เสพพืชกระท่อม ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ 5.กำหนดให้กฎหมายฉบับนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอาง ที่มีส่วนประกอบของพืชกระท่อม ตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอาง




นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงยุติธรรม ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ส. www.oncb.go.th จำนวน 2 ครั้ง และได้เผยแพร่ผลการรับฟังความคิดเห็นพร้อมการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมายผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวให้ประชาชนรับทราบเรียบร้อยแล้ว โดยจากนี้จะส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา ก่อนส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป เมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งใน 37 ประเทศทั่วโลกที่ควบคุมพืชกระท่อมโดยไม่ใช้กฎหมายยาเสพติด แต่ใช้กฎหมายอื่น เช่นเดียวกับญี่ปุ่น เซอร์เบีย โครเอเชีย และซีเรีย