ตำรวจตั้งทีมสืบสวนกรณี "เก้งเผือก" หาย แม้จะยังไม่แจ้งความ

2020-10-05 14:50:30

ตำรวจตั้งทีมสืบสวนกรณี "เก้งเผือก" หาย แม้จะยังไม่แจ้งความ

Advertisement

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลาและกองปราบปรามตั้งทีมสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหาย 2 ตัว แม้จะยังไม่มีการแจ้งความก็ตาม รวมทั้งปมการสั่งย้าย

วันที่ 5 ต.ค. ความคืบหน้าการสอบสวนกรณี นายสุริยา แสงพงค์ ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ ถูกนายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ ยิงเสียชีวิตภายในที่ทำการสวนสัตว์สงขลา ขณะลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานชื่อ คุณภูมิกับคุณภาค หายไปอย่างปริศนา และเมื่อวานนี้ นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่มาติดตามเรื่องนี้แล้วและได้ข้อสรุปในเบื้องต้นโดยพบว่า เก้งตัวแรกหายจริงแต่จะถูกสัตว์อื่นทำร้ายหรือตายด้วยสาเหตุใดนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบแม้ว่าจะพบซากแล้วก็ตาม ส่วนอีกตัวมีภาพหลักฐานชัดเจนว่าถูกงูเหลือมกินและผลการสอบสวนจะสรุปได้ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ ส่วนเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นคาดว่ามาจาก ความไม่เข้าใจกันกรณีที่ถูกสั่งย้าย

สำหรับคดีนี้แม้ว่าผลการสอบสวนยังไม่ออกมาและยังไม่ได้มีการเข้าแจ้งความกับตำรวจก็ตาม ในทางการสืบสวนขณะนี้ทางชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจ.สงขลา ได้ตั้งชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายปมคดีเก้งทั้งสองตัวหายแล้ว




โดยมีรายงานว่ากรอบการสอบสวนเรื่องนี้มีการตั้งข้อสังเกตไว้หลายประเด็น คือ 1.ทำไมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ตอนที่ทราบว่าลูกเก้งหายไป จนมาพบซากโครงกระดูกก็ยังไม่แจ้ง 2. จะสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์เลื้อยคลานว่า เวลากินตัวอะไรเข้าไปแล้วจะคายเลยหรือไม่ หรือต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนานเพียงใด และ

3. สืบสวนเรื่องร่องรอยพื้นที่ว่าเมื่อทราบว่าเก้งหายไปแล้วพื้นที่ตรงนั้นมีร่องสัตว์ต่อสู้หรือดิ้นรนเอาชีวิตรอดลักษณะจะเป็นอย่างไร และยังให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ว่าการที่ทางสวนสัตว์กล่าวว่า ลูกเก้งตัวแรกโดนงูเหลือมกินและมาพบซากโครงกระดูกภายหลังนั้นจริงหรือไม่โดยให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ว่าพฤติกรรมการกินหาของงูนั้นพอกินไปแล้วจะสามารถเหลือโครงกระดูกไว้หรือไม่และมาเทียบกับอายุของลูกเก้งตัวแรกว่าถ้างูเหลือมกินเข้าไปแล้วยังสามารถเหลือโครงกระดูกเหมือนที่พบและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลาอ้างว่าเป็นโครงกระดูกของเก้งเผือกหรือไม่ และหากการสอบสวนพบความผิดปกติเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนว่ามีการทำกันเป็นขบวนการหรือไม่หรือและมีใครเกี่ยวข้องบ้าง และจะสืบสวนคลี่คลายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ทางตำรวจกองปราบได้มีการตั้งทีมสอบสวนเรื่องนี้เช่นกันโดยสอบในประเด็นเรื่องการโยกย้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลาทั้ง 4 นายโดยเฉพาะนายสัตวแพทย์ภูวดล



ส่วนกรณีที่ของ นายสัตวแพทย์ภูวดล ที่ใช้ปืนยิง นายสุริยา จากการสอบสวนญาติและคนใกล้ชิด ได้ข้อมูลว่านายภูวดล โกรธนายสุริยาเป็นอย่างมากที่มีคำสั่งย้ายตนออกจากพื้นที่โดยที่ไม่มีความผิด และนายสัตวแพทย์ภูวดลเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าไม่ได้ทำผิดและตั้งใจทำงานมาโดยตลอด และยังเคยตัดพ้อทำนองว่าทำไมไม่สอบสวนและสั่งย้ายคนอื่นที่มีความรับผิดชอบโดยตรง ตนเป็นแค่หมอที่คอยดูแลสัตว์ยามเจ็บป่วยและสุขภาพทั่วไปของสัตว์เท่านั้น