กอ.รมน.ภาค 4 สน. เผยเหตุลอบวางบึ้มที่สงขลา ส่งผลให้ "ทหาร" เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 6 นาย
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ขณะทำการเคลื่อนย้ายสับเปลี่ยนกำลังพลที่บริเวณถนนหมายเลข 43 บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย แลัได้รับบาดเจ็บอีก 6 นาย ล่าสุด พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดขบวนยานยนต์ของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15 พัน.1) ขณะเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลังพล โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ½ ตัน (FTS) ได้รับความเสียหาย ส่วนกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย แลัได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 นาย นำส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวอีกว่า สำหรับทหารที่เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ พลทหาร อรรถพล พลายชนะ ถูกสะเก็ดบริเวณที่หลังด้านขวา ส่งผลให้มีเลือดคั่งในปอด ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ผู้บาดเจ็บประกบด้วย จสอ.สัญญา บุรีรักษ์ มีอาการหูอื้อ มึนหัว เลือดออกจมูก, สท.จักรกฤษ เพชรทอง อาการ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังหูขวา, สต.เอกราช วิชาศาสตร์ อาการถูกสะเก็ดบริเวณที่ต้นขาขวา, พลทหารอารียะ สาและ ถูกสะเก็ดที่บริเวณไหล่ขวา, พลทหารพงศกร ไหมร่วง ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหลังด้านขวา และพลทหารฮารอฟัด มะเซ็ง ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหัวเข่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องวางแบบเร่งด่วน โดยสะเก็ดระเบิดเป็นลักษณะเหล็กเส้นตัดท่อน จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร ผูกติดไว้กับต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 43 (หาดใหญ่ – ปัตตานี) บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ต.ปากบาง อ.เทพา จังหวัดสงขลา
พ.อ.วัชรกร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมกำชับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องสิทธิและสวัสดิการ ตลอดจนจัดการพิธีศพอย่างสมเกียรติที่สุด พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจสงขลา เพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่ และจัดกำลังติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ต้องสงสัย ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี หรือหลบซ่อนตัว รวมถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะพื้นที่สูงข่ม พื้นที่เขตก่อสร้าง ท่อลอด คอสะพาน และพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1341 หรือแจ้งหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
