ผบ.ตร.แถลงปิดคดีจับ"คนร้าย"ชิงทองย่านวังหิน

2020-09-30 11:05:55

ผบ.ตร.แถลงปิดคดีจับ"คนร้าย"ชิงทองย่านวังหิน

Advertisement

ผบ.ตร. แถลงปิดคดีจับ "แก๊งชิงทอง" กว่า 6 ล้านบาทย่านวังหิน เผยประวัติสุดโชกโชนก่อเหตุซ้ำรอยถึง 2 ครั้ง

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวน แถลงรายละเอียดการจับกุมคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 216.5 บาท ภายในร้านทองเยาวราชย่านลาดพร้าว-วังหิน กทม. โดยไล่เรียงการสืบสวน จนนำไปสู่การจับกุม นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 38 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุ โดยจับได้ที่ จ.เลย ขณะกำลังหลบหนีออกนอกประเทศ นอกจากนี้ยังจับกุม นางจันดา จันทร์โศก อายุ 24 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนดูต้นทาง และจับกุม นายสุริยันต์ นิลบรรพต อายุ 37 ปี เพื่อนของผู้ก่อเหตุ ทำหน้าที่ช่วยกันซุกซ่อนของกลาง จากนั้นตามยึดอาวุธปืน รถจักรยานยนต์ และพัดลมตั้งโต๊ะซึ่งดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนปืนและทองของกลาง โทรศัพท์มือถือ วิกผม และเสื้อผ้าที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องปิดตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ จากนั้นไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีจนไปถึงจุดทิ้งรถจักรยานยนต์ จุดเปลี่ยนเสื้อผ้า และขณะไปที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยจากแผนประทุษกรรม พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาทำงานเป็นทีม และแบ่งหน้าที่กันทำ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดย นายชัยมงคล ยอมรับว่าเคยก่อเหตุชิงทองในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2553 โดยได้ทองน้ำหนักกว่า 60 บาท ก่อนถูกจำคุก และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2562 และในปีเดียวกันได้ก่อเหตุอีกครั้งที่ จ.ขอนแก่น ได้ทองไปกว่า 400 บาท จากนั้นหลบหนีไปที่ สปป.ลาว โดยหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลเพื่อสืบหาทองคำของกลางที่เหลือต่อไป




พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวถึงการทำงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมาว่า ส่วนใหญ่แผนประทุษกรรมของผู้กระทำผิดมีรูปแบบเดิมๆ ซึ่งบางอย่างอาจเปลี่ยนไป แต่มั่นใจว่าตำรวจมีความสามารถมากกว่า อย่างไรก็ตามจากนี้ไปจะเน้นเรื่องการป้องกันเหตุ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนด้วย เช่น คดีนี้ พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะเลือกร้านทองที่สามารถเข้าถึงเคาน์เตอร์ได้ง่าย ที่ผ่านมาตำรวจพยายามประสานให้เจ้าของร้านทองติดตั้งลูกกรงหรือแผงกั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการประทุษร้ายต่อทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง