เรียนเก่งอันดับหนึ่ง "หมอริท"โอดโควิดทำพิษอีกยาวคว้าทุนคลินิกคืน

2020-09-30 09:55:47

เรียนเก่งอันดับหนึ่ง "หมอริท"โอดโควิดทำพิษอีกยาวคว้าทุนคลินิกคืน

Advertisement


เป็นอีกหนึ่งคนคุณภาพของวงการบันเทิงที่สามารถเรียนและทำงานควบคู่ไปได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องสำหรับ"หมอริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช" ที่ตอนนี้จบปริญญาโทด้านผิวหนัง จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมคว้ารางวัลนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่งมาครองด้วยความสามารถล้วนๆ ล่าสุดพอได้เจอเจ้าตัวในงานเปิดตัวโปรเจกต์ "BOYFRIENDS" เลยสอบถามถึงเรื่องนี้พร้อมถามถึงเรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัวโควิด-19 โดยหนุ่มริทได้เผยว่า


ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น?
ตัวริทเพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านผิวหนังของวิทยาลัยนานาชาติจุฬาภรณ์ ของธรรมศาสตร์ แล้วพอจบปุ๊บตามธรรมเนียมเขาก็จะมีการให้รางวัลกับนักเรียนดีเด่น ซึ่งริทก็ได้รับเลือกเป็นนักเรียนดีเด่น คุณครูเขาบอกว่าก็แค่เรียนได้อันดับหนึ่งอะไรอย่างนี้ เรียนไปด้วยแล้วก็ทำงานในวงการบันเทิงไปด้วย แล้วก็ได้อันดับหนึ่งก็แค่นั้น

เราก็ไม่ได้อวดอะไรเนอะ?

รุ่นเรามีประมาณ 10 กว่าคน ก็ได้อันดับหนึ่ง (หัวเราะ)

ภูมิใจไหม?

ภูมิใจๆ ครับ  ความจริงตั้งแต่เรียนก็คือตั้งใจมากจริงๆ มันไม่เหมือนตอนที่ริทเรียนหมอแล้วครับ เรียนหมอมันเหมือนเรียนทุกอย่างเพื่อให้รู้แบบครอบคลุม แต่อันนี้เรียนเพื่อใช้ในวิชาชีพ เพื่อที่จะมารักษาจริงๆ แล้ว เลยตั้งใจค่อนข้างมากเลยครับ



เอาไปติดที่ร้านเลยไหมเพราะว่าเราเรียนดีอันดับหนึ่ง ?

เอามาแล้วครับ แต่ในใบมันไม่ได้บอกว่าได้อันดับหนึ่ง ฝากพี่ๆ บอกว่าได้อันดับหนึ่งนะครับ(ยิ้ม)

จะมีเรียนอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ?



จริงๆ อาจารย์ก็ชวนเรียนเพิ่มอยู่นะครับ เรียนด็อกเตอร์หรืออะไรอย่างนี้ ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้น่าจะไม่ไหวแล้ว น่าจะพอแล้ว

เพราะอะไร?

มันเรียนมาทั้งชีวิตแล้วอ่ะพี่ พอวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราเรียนจบมาปุ๊บและได้ประกอบอาชีพจริงๆ ก็รู้สึกว่าจริงๆ มันก็ถึงฝั่งฝันแล้ว ความรู้ที่เราเรียนมามันก็ค่อนข้างเพียงพอแล้ว ที่เรียนเพิ่มเติมไปน่าจะเป็นเรื่องของตำแหน่ง เหมือนศึกษาที่มันลึกลงไปเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า ริทก็เลยคิดว่าอาจจะยังไม่จำเป็นในตอนนี้ แต่ถ้าเกิดแก่ตัวไปกว่านี้ก็อาจจะคิดก็ค่อยว่ากัน



แต่ถ้าได้นักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่งของด็อกเตอร์ก็จะดีเลยนะ ?

ถ้าเราเป็นที่หนึ่งของด็อกเตอร์ แล้วเราก็จะได้รับไปอีกรอบหนึ่ง ลองดู (หัวเราะ) พอแล้วมั้ง

หลังจากนี้ก็จะได้ทำงานเข้าคลินิกได้เต็มที่ใช่ไหม ?

ตอนนี้เหมือนเป็นหมอประจำแล้วครับ เพราะริทเข้าคลินิกแทบจะทุกวัน มีวันที่คลินิกปิดก็จะเอาเวลามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานวงการบันเทิงอาทิตย์หนึ่งก็แค่ 1-2 วัน ซึ่งมันเหมือนไม่ต้องซื้อบัตรมีตแอนด์กรี๊ดริท ซื้อคอร์สเลเซอร์ใกล้กว่าอีก (หัวเราะ)




กลายเป็นคุณหมอของวงการไปแล้ว มีเพื่อนนักแสดงในวงการแวะเวียนมาเยอะไหม ?

ใช่ครับ ก็มาเยอะเลย ส่วนใหญ่เขารู้แหละว่าเขาจะทำอะไรก็มาขอฟรีมากกว่า (หัวเราะ) ระบุมาเลยว่าขอตัวนี้ตัวนั้น อันไหนยิ่งแพงยิ่งขอเยอะ

ระบุชื่อคนที่มาขอเราฟรีได้ไหม ?

อย่าให้ร่ายเลยมีหลายคน แต่เราก็ยินดีทำให้ก็อยากดูแลเหมือนกัน



แฟนคลับไปอุดหนุนเยอะไหม ?

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาวันแรกๆ ก็คือแฟนคลับแทบจะทั้งหมด จากนั้นก็เริ่มบอกต่อกระจายไปสู่วงนอก ตอนนี้ก็เริ่มเป็นลูกค้าทั่วไป 50  แฟนคลับ 50 ครับ

แสดงว่าแฟนคลับเราต้องหน้าใสมาก ?

แฟนคลับตอนนี้ก็คือทาครีมกันแดดทุกคน ดื่มน้ำเยอะๆ ทาครีมบำรุง ห้ามมีกระมีฝ้าห้ามมีรอยดำครับ(หัวเราะ)



มีปฏิกิริยาเวลาเจอหมอริทสัมผัสหน้าบ้างไหม ?

ถามว่ามีไหม ก็มี แต่พอริทอยู่ในบทบาทที่เป็นแพทย์ ริทก็จะไม่เป็นอย่างนี้ ไม่ดุครับ แต่ก็ไม่ได้เล่น เพราะส่วนใหญ่เวลาเราจะพูดก็จะพูดในเรื่องวิชาการ การแนะนำ การตรวจวินิจฉัยครับ ถ้าริทอยู่ในหน้าที่แพทย์แล้วริทพูดแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อ

รีวิวแฟนคลับเวลามาเจอเราที่คลินิคหน่อย?

แฟนๆ ก็มีเขิน บิดๆแบบนะคะอะไรอย่างนี้ 




ช่วงโควิดรายได้หดหายไปเยอะไหม ?

ริทเปิดตอนโควิด-19 ตอนแรกริทจะชวนพี่ๆสื่อมาร่วมแถลงข่าว แต่ข่าวมาแรงก็เบรคไว้ก่อน ท่านก็ให้หยุดกิจกรรมไปก่อน เราก็ชะลอการเปิด พอท่านให้เปิด บอกให้ทำแค่ตัวเราก็เริ่มทำตัว หัวเข่า ข้อศอกใสกันทุกคน พอเริ่มทำหน้าได้ก็เริ่มมาทำหน้า ก็พัฒนามามาตามลำดับ แต่ว่าพอมันเป็นช่วงหลังโควิดแล้วริทเพิ่งเปิดใหม่ด้วยมันก็ค่อนข้างลำบาก ถึงแม้ริทจะมีต้นทุนสูงกว่าหมอคนอื่นเพราะเป็นดาราไปในตัวด้วย พอเราเปิดมามันก็ยังเหนื่อยอยู่ไม่ได้มาถึงเปรี้ยงปร้างทีเลยเดียว

ตอนนี้คุ้มทุนบ้างหรือยัง ?

ยังครบ ไม่ใกล้ครึ่งเลยครับ ตอนแรกวางไว้ว่าภายใน 3 ปี แต่ว่าตอนนี้คนใช้เงินระมัดระวังมากขึ้น ก็ค่อยๆ ทำไปแล้วกัน ไม่รีบอะไร

คนขอฟรีก็เยอะ?

ถ้าพี่น้องในวงการก็ให้ได้อยู่แล้วครับ แต่เรื่องนั้นไม่ได้ซีเรียส เรามองว่าเป็นอาชีพ เรามองว่าเป็นความสุขของเราที่ได้ทำให้คนสวย คนแฮปปี้มีความสุข หน้าตาดี

อยากเปิดในต่างจังหวัดไหม ?

"จริงๆ อยากขยายสาขา แต่เราอาจจะต้องวางระบบให้นิ่งก่อน ถ้าทุกคนเห็นใจก็ฝากคลินิก ไว้ด้วยครับ(ยิ้ม) ส่วนเรื่องการขยายสาขาช่วงไหนอยากทำอันนี้ให้นิ่งก่อนสักหนึ่งปีแล้วค่อยเริ่มขยายในปีต่อไป แต่จะได้เร็วหรือช้ากว่านั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์เพราะตอนนี้อะไรก็ไม่แน่นอน บ้านเมืองยังไม่นิ่ง โรคภัยยังไม่นิ่งครับ

ท้อไหม ?

ตอนนี้ยังไม่ท้อ เพราะเหมือนเปิดปุ๊บก็เจอปัญหาตั้งแต่แรกเลย กฎระเบียบมันก็เยอะ ทำอะไรก็ลำบาก ต้องมีมาตรการโน่นนี่นั่นมันถึงจะเปิดได้ มันก็นิดนึงอ่ะ แล้วพอเปิดมาบวกกับเศรษฐกิจที่มันซบเซาก็ทำให้ค่อนข้างเหนื่อย แต่เลือกไม่ได้เราเกิดประเทศนี้แล้ว ก็ต้องต่อสู้ในประเทศนี้ต่อไป