“เทพไท”หวั่นแก้ รธน.บานปลาย เสนอเปิดวิสามัญรัฐสภาลงมติรับหลักการวาระ1 ภายใน 30 วัน
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึง การประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมา ว่า ตนในฐานะที่เป็น ส.ส.คนหนึ่ง แต่ไม่ได้ร่วมปฎิบัติหน้าที่ในที่ประชุมรัฐสภา รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น หลังจากที่ประชุมรัฐสภามีมติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 นั้น ถูกมองว่าเป็นการซื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเป็นการเติมเชื้อไฟในม็อบ ที่กำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตนได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลแล้วว่า ควรที่จะส่งสัญญาณให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งไม่น้อยกว่า 84 คน ลงมติรับหลักการในวาระหนึ่งไปก่อน เพื่อเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์การชุมนุมของมวลชนที่กำลังร้อนแรงอยู่ แต่เมื่อสถานการณ์ได้ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ก็รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือ น ต.ค.นี้ ซึ่งอาจจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่นำไปสู่ขั้นวิกฤตของบ้านเมืองได้
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่าเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ขึ้นมาแล้ว และมีระยะเวลาทำงาน 30 วัน ก็น่าจะเร่งหาข้อสรุป และเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 ให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการปลดล็อก และผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมืองออกไป ตนขอยืนยันว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ และญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล คือ แก้มาตรา 256 และจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ต้องได้รับการสนับสนุนให้ผ่านไปได้ แต่สำหรับญัตติอื่นๆอีก5ญัตติ ก็เป็นดุลย์พินิจของสมาชิกรัฐสภาแต่ละบุคคลที่จะต้องพิจารณาตัดสินใจกันเองต่อไป
“ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้สนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีหลักการเดียวกัน ซึ่งควรจะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาค ส่วนทั้งสมาชิกฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล สมาชิกวุฒิสภา และถ้าหากญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอันตกไป ก็จะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน”นายเทพไท กล่าว