จากเจ้าแม่สายมู "แก้มบุ๋ม ปรียาดา" พาตัวเองเข้าสู่สายธรรมะด้วยการรับศีล

2020-09-25 09:55:23

จากเจ้าแม่สายมู "แก้มบุ๋ม ปรียาดา" พาตัวเองเข้าสู่สายธรรมะด้วยการรับศีล

Advertisement

ขึ้นแท่นเป็นตัวแม่สายมูตัวยงที่ไม่ว่าจะได้ยินสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตรงไหนดี ตรงไหนเด็ด "แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย" ต้องไปบูชาขอพรเสริมความปังทั้งเรื่องงาน เงิน และความรักให้กับตัวเองด้วยแรงอธิษฐาน ล่าสุดสาวแก้มบุ๋มได้มาเยือนรายการต้มยำอมรินทร์ พร้อมเผยแบบหมดเปลือกว่าความรักดีที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้กับหวานใจที่ชื่อ "พีท กันตพร" นักธุรกิจหนุ่ม ทายาทเครือโรงพยาบาลดัง มาพบรักเพราะจากการดูดวง โดยเจ้าตัวได้เผยว่า



จุดเริ่มต้นการ มู ใครชักนำเข้าไป ?



แก้มบุ๋ม : พี่ปุยฝ้ายค่ะ เป็นคนชักนำเข้าไป จริงๆก่อนหน้าที่จะถูกชักนำเราก็มีมูบ้าง คือคุณแม่เราเป็นสายที่มูหนักมากที่ไหนดีแม่ก็ไปลูกก็เลยติดเชื้อแม่ พอมาเจอพี่ฝ้าย คือเราทำรายการด้วยกัน แล้วเราก็ได้ยินพี่ฝ้ายคุยแบบผ่านหูว่าไปมูที่นี่ดีมากเลยนะ เราก็เข้าไปถามเขาเลยว่าอะไรตรงไหนดีเหรอค่ะ พี่ฝ้ายเขาก็แนะนำเรามาตรงนั้นดีโน้นนี่นั่น ไม่ใช่ไปแค่ดูหมออย่างเดียวนะ เรื่องรับศีลด้วย คือการรับศีลถามว่ามันดียังไง ทำผิดในศีลมันเป็นยังไง แล้วผลรับได้อะไร เราได้ฟังแบบนี้เราบอกคุณพ่อเลยว่าไม่ได้ล่ะต้องไปที่นี่ล่ะ

ปุยฝ้าย : คุณอาณัติ โหดมหัน การรับศีลปรมัตถ์ คืออย่างมนุษย์ทุกคนบอกว่ารักษาศีล 5 จะมีอาการเผลอเรอนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไรหรอก แต่การที่เราถือศีลนี้แล้วเราต้องทำให้ได้ตลอด ไม่สามารถที่จะตบยุงได้หรือหลงเผลอเรอได้ เพราะเราได้ปวารณาตนไปแล้วได้ให้คำมั่นสัญญาไปแล้ว แต่เราต้องไปเข้าพิธีนะคะ ถ้ามดจะกัด ยุงจะกัด ปล่อยเขากัดไปค่ะ แต่เราเลือกได้นะคะ เราเอาข้อที่เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะทำได้ ไม่จำเป็นต้องทำได้ทั้งหมด 5 ข้อ



แก้มบุ๋ม : ส่วนตัวรับมาแค่ 2 ข้อค่ะ คือ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ลักทรัพย์ เพราะเรารู้สึกว่าถ้าอยู่ๆวันใดวันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราอยากพูดโกหก คือไม่ได้ ถึงจะพูดโกหกโดยที่ไม่เจตนาก็ไม่ได้

ไปดูหมอดูมาเป็นยังไงบ้าง?

แก้มบุ๋ม : แม่นมากดีมาก ไปอาทิตย์ละ 1 ครั้งเลยค่ะ คือเพราะด้วยความที่เราเป็นคนฟุ้งซ่าน คือความเชื่อของเราไม่มีผิดไม่มีถูกค่ะ ที่เราไปถามก็จะมีเรื่องงาน เรื่องเงิน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหัวใจ บางทีก็แบบทำอะไรไม่ได้ ที่เราไปดูทุกอาทิตย์เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่สบายใจเราเลยไปดู เหมือนเราไปหาเพื่อนแล้วปรึกษามากกว่า





สิ่งที่เขาดูให้เรา แม่นไหม ?


แก้มบุ๋ม : แม่น มากเขาบอกว่าเราจะเจอคนที่ทำเกี่ยวกับโรงพยาบาลเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเราก็คิดว่าเป็นสัตวแพทย์ เพราะเรามีความชอบของเราสัตว์เลี้ยง ผ่านไป 1 ปีแฟนคนปัจจุบันทำเกี่ยวกับโรงพยาบาลตรงมาก

ทุกวันนี้ยังไปไหม?

แก้มบุ๋ม : ช่วงนี้มีความสุขเลยไม่ค่อยได้ไปเจอหมอดูเลย เพราะช่วงไหนที่เรามีความสุขมากเราก็ไม่ได้ไปเลย คนเราพอแบบถ้าจิตใจไม่ได้แบบมีความรู้สึกว่าเศร้าก็จะรู้สึกว่าโหยหาอะไรที่ต้องยึดเหนี่ยว



จากการที่หมอดูคนนี้บอกว่าจะมีผู้ชายเข้ามาในชีวิต และก็เข้ามาแล้วจริงๆ ตอนนี้ผู้ชายกำลังเปรยๆเรื่องแต่งงานแล้วจริงไหม ?

แก้มบุ๋ม : (ยิ้ม) ไม่ ยังๆค่ะ แต่เขาก็มีถามบ้างว่าชอบแบบไหน บ้านเราชอบแบบไหน เขาต้องจ่ายเงินเป็นแสนให้หมาแล้วเหรอต่อไปนี้ เขาอาจจะพูดเฉยๆก็ได้

ถ้าเขาขอเราพร้อมที่จะตอบหรือยัง ?

แก้มบุ๋ม : เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ





มีความรักดีๆก็ไม่วายโดนคนบูลลี่เรื่องแฟน?

แก้มบุ๋ม : อย่างภาพที่เห็นเลยค่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงที่สูงมากกว่ามาตรฐานเกินผู้หญิงคือสูง 171 เลย เราก็ไม่ได้โต้ตอบคนที่บูลลี่อะไรเรามากนะคะ เราแค่ตอบไปว่า สงสัยหนูจะเป็นผู้หญิงที่สูงเกินกว่ามาตรฐานมั้งคะ แต่อีกคนคือด่าเลย เดี๋ยวนี้เขาไม่บูลลี่กันแล้วค่ะ ด้วยความที่เราเป็นเราแบบนี้ เขาก็มาต่อ เดี๋ยวนี้ทำไมไม่สวยเลยนะคะ เราก็ตอบเขาอีกนะว่าช่วงนี้ไม่สวยเลยค่ะ คือที่เราตอบไปเบาๆแบบนั้นเพราะเราเอาความโกรธของเราแสดงออกไปทำให้เราเคยดูแย่มาแล้ว ตอนนี้เราเลยคิดว่าเราเอาความโกรธของเราเก็บไว้ข้างในแล้วเอาเขียนลงในกระดาษระบายความโกรธแทน ฉันเกลียดแกๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องเขียนลงในโซเชียลเพราะมันจะอยู่ในนั้นตลอดกาล


เปิดคาเฟ่สัตว์เลี้ยงด้วยหรอ ?

แก้มบุ๋ม : เป็นเรื่องเข้าใจผิดในช่วงโควิดคือร้านปิดร้านหยุด มีคนมาดูสัตว์ตลอด แต่ด้วยความที่มีคนคนหนึ่งเขารักสัตว์แต่เขามาหาว่าเราทารุณกรรมสัตว์หาว่าเราปล่อยสัตว์ทิ้งไว้ ปล่อยกินอึตัวเอง อยู่ในที่ร้อนซึ่งพอเราไปอธิบายให้เขาฟังเขาไม่ฟังเรา แล้วเขาบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นสิ่งที่เขาเจอเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด คือตอนด่าเราทำไมเขาโพสต์ว่าเราได้ แต่ตอนจะขอโทษเราทำไมต้องมาถามเราว่าจะต้องโพสต์อะไรพูดอะไร เราก็บอกว่าเราไม่เอาแล้วเราจะฟ้องไม่รับคำขอโทษแล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราต้องฟ้องเพราะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู