ทำเนียบขาวออกมายืนยันเอง โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐจะยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เสรีและยุติธรรม หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่เขาพูดเป็นนัยว่าอาจไม่ยอมรับผลเลือกตั้งแต่โดยดี
นายมิทช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐ และแกนนำพรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ปฏิเสธการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น พร้อมทั้งรับประกันต่อชาวอเมริกันผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ จะต้องได้รับการยอมรับ
ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยอมผองถ่ายอำนาจอย่างสันติในวันพุธที่ผ่านมา ระหว่างการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว และกล่าวว่า เขาหวังว่าการต่อสู้กับนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต จะจบลงได้ด้วยการชี้ขาดของศาลสูง ขณะที่ พรรคเดโมแครต กล่าวหาทรัมป์ว่าข่มขู่คุกคามประชาธิปไตยของอเมริกา และนำเอาเรื่องการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงแทนรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ที่เสียชีวิตไป มาเป็นประเด็นการเมือง โดยระบุว่า ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร จะแทรกแซงผลการเลือกตั้ง
แม็คคอนเนลล์ กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้ จะต้องมีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยความราบรื่นไร้ปัญหาในวันที่ 20 มกราคม หลังจากเมื่อ 1 วันก่อนหน้า ทรัมป์ปฏิเสธให้คำมั่นว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งแต่โดยดี โดยผู้นำสหรัฐฯตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่า “จะต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้น” เขายังได้ใช้โอกาสนี้ พูดถึงความกังวัลว่า การลงคะเเนนเสียงเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์จะทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่
แม้ว่าทรัมป์จะเคยกล่าวหลายครั้งว่าการใช้สิทธิ์ทางไปรษณีย์ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 จะทำให้เกิดการโกงการเลือกตั้งครั้งใหญ่หลายสิบล้านเสียง แต่เขาไม่มีหลักฐานมายืนยัน
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยเคย์เลจ แม็กเอ็นเนนี โฆษกทำเนียบขาว แถลงข่าวสั้น ๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับถ้อยแถลงของทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีจะยอมรับผลการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรม
ปัจจุบันนี้ ทรัมป์ยังมีคะแนนนิยมตามหลังนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต จากผลสำรวจความคิดเห็นของโพลหลายสำนักขณะที่เหลือเวลาอีก 40 วันจนถึงวันเลือกตั้ง