ประธานวิปรัฐบาลเสนอเลื่อนลงมติรับหลักการร่างแก้ไข รธน. 6 ฉบับออกไป 1 เดือน เสนอตั้้ง กมธ. 3 ฝ่ายศึกษา คาดเดือน พ.ย.น่าจะผ่านได้
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภาวันที่ 2 เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ พ.ศ... จำนวน 6 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 ที่เสนอโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะ 2.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 ที่เสนอโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และคณ 3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 270 และมาตรา 271 ในเรื่องการปฏิรูปประเทศ 4.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิก มาตรา 272 เรื่อง ยกเลิกอำนาจ ส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี 5.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม ที่ให้ยกเลิก มาตรา 279 ให้ยกเลิกประกาศและคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 6.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม ที่ให้ยกเลิก มาตรา 93 และ มาตรา 101 (4) เรื่องให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งส.ส. 2 ใบ ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยร่างแก้ไขที่ 3-6 นั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะเป็นผู้เสนอ
ต่อเวลา 18.10 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล อภิปรายสรุปญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเปรียบเทียบการพิจารณาทั่วไปที่มีความราบรื่น แต่การอภิปรายตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีถ้อยคำแปลกๆ เสียดสี เนื่องจากความเห็นที่ต่างกัน และไม่ว่าจะไปที่ใดก็มีคำถามว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ได้หรือไม่ แก้แล้วประชาชนได้อะไรบ้าง ซึ่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็บอกว่าทุกฝ่ายต่างรักชาติบ้านเมือง แต่ขณะนี้ทุกคนยังไม่ได้มีโอกาสได้คุยกัน ไม่มีคณะกรรมาธิการร่วมที่จะได้เจอกันบ่อยๆ
นายวิรัช กล่าวว่า วันนี้หากมีการลงมติอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วญัตติต้องตกไปเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ถ้าจะช้าไปอีก 1 เดือน ก็น่าจะเป็นเรื่องที่คุ้มค่า ทั้งนี้จุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่อย่างไรประเทศต้องปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งยืนยันว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมจะไม่แตะตรงนี้ วันนี้ไม่รู้หาทางออกทางไหน เหมือนเป็นทางตัน หากเดินหน้าแล้วเกิดว่ามีมติไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะทำอย่างไร ซึ่งขณะนี้จะหวังให้เห็นคล้อยตามกันคงเป็นไปไม่ได้ แต่หากได้พบปะหารือกัน ก็คงใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน และจะกลับมาพิจารณาอีกครั้งสมัยประชุมต่อไป ส่วนข้อสังเกตว่าประวิงเวลาหรือไม่ เมื่อดูจาก 2 วันที่ผ่านมา ก็รู้ตัวว่าบางอย่างยังขาดไม่สมบูรณ์อยู่ ถ้าเดินไปข้างหน้าวันนี้ถึงทางตัน แต่ถ้าตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วม คิดว่าเดือน พ.ย.ก็น่าจะสามารถผ่านญัตติทั้ง 6 ฉบับ ได้ตามต้องการ จึงจะเสนอขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้น ก่อนรับหลักการ และขอให้ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือกัน เพราะถ้าเดินไปวันนี้แล้วถึงทางตัน
นายวิรัช กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ เคยยืนยันว่าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเป็นนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นเรื่องจำเป็น ทางออกจากอยู่ที่การแก้ไขมาตรา 256 แต่จะไม่สัมฤทธิ์ผลหากสมาชิกรัฐสภาไม่ให้การช่วยเหลือ ย้ำว่าอยากให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการพิจารณา