"ก้าวไกล" ยื่นแล้วร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของสาธารณะเชื่อป้องปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ลดอำนาจดุลพินิจของข้าราชการ
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่รัฐสภา นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน นายไกลก้อง ไวทยการ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาร่างกฎหมายเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้ร่วมแถลงข่าวกรณีพรรคก้าวไกลได้มีการยื่น ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสารธารณะ ต่อสภาผู้แทนราษฎร
นายวรภพ กล่าวว่า เดิมกฎหมายเรื่องนี้ถูกเรียกว่า พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ที่พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรจะใช้ชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของสาธารณะ นอกจากชื่อที่มีความก้าวหน้าขึ้นแล้ว ยังได้สะท้อนเจตนารมณ์ที่ว่า ข้อมูลเป็นของสาธารณะ ซึ่งจะสามารถป้องปรามการทุจริตคอร์รัปชันและลดอำนาจดุลพินิจของข้าราชการลงได้ด้วย สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้คือ 1. มีการเปลี่ยนหลักการใหญ่ที่ว่า ข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่ไม่ใช่ข้อมูลความลับและไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล จะเป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะ จำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่ต้องร้องขอ 2. ให้ทุกหน่วยงานของรัฐจัดทำรายการข้อมูลข่าวสารสาธารณะของแต่ละหน่วยงาน โดยกำหนดรายการข้อมูลข่าวสารสาธารณะตั้งต้นของทุกหน่วยงานรัฐ ให้ครอบคลุมถึงข้อมูลข่าวสารสำคัญที่ควรเปิดเผย ทั้งข้อมูลข่าวสารในทุกขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารเงินแผ่นดิน 3.ให้ทุกหน่วยงานของรัฐต้องจัดทำรายการข้อมูลความลับราชการว่า ข้อมูลประเภทใดจัดเป็นข้อมูลความลับบ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบและลดดุลพินิจในการไม่เปิดเผยข้อมูลความลับโดยอ้างเหตุชั้นความลับ 4.ให้ประชาชนมีช่องทางในการ ยื่นคำร้องต่อหน่วยงานและคณะกรรมการ เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายการข้อมูลข่าวสารสาธารณะ และรายการข้อมูลความลับของแต่ละหน่วยงาน ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 5.ให้มีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ที่เป็นสัดส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิมากกว่าข้าราชการประจำ เพื่อให้ใช้อำนาจ ไปในทางเปิดเผยข้อมูลสาธารณะได้มากกว่าในกฎหมายเดิม
นายไกลก้อง กล่าวว่า ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาร่างกฎหมายเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ตั้งใจปรับปรุงให้กฎหมายเรื่องนี้มีความทันสมัยมากขึ้น เพราะจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่กฎหมายนี้ใช้บังคับ ซึ่งได้ล้าสมัยไปแล้ว ไม่ทันการเปลี่ยนแปลงและไม่ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของประชาชน รวมทั้งการไปขอข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ มีความยากลำบากและมีความซับซ้อน ดังนั้น ร่างกฎหมายที่ปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง จะมุ่งคุ้มครองให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ และต้องเข้าถึงได้โดยสะดวก ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน ทั้งนี้ หลักการที่สำคัญคือฐานข้อมูลภาครัฐต่างๆ ประชาชนต้องเข้าถึงและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อสามารถนำไปต่อยอด สร้างนวัตกรรมได้ ตามหลัก open data
ด้าน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบเท่าที่ควร เพราะมีอุปสรรคขัดขวางในการได้รับข้อมูลที่เพียงพอจากทางราชการและหน่วยงานภาครัฐ ถือเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกที่ผิด อย่างกรณีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จะนะ หากประชาชนสามารถรู้ข้อมูลได้ก่อน รู้ว่าจะมีผลกระทบเป็นอย่างไร ก็จะได้สามารถใช้สิทธิคัดค้านได้ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้จะช่วยเพิ่มพลังให้กับภาคประชาชน เพิ่มพลังให้กับสื่อมวลชนในการช่วยกันตรวจสอบการทำงานของภาครัฐมากขึ้น ความซับซ้อนในการขอข้อมูลข่าวสารจะหายไป ถ้าสนับสนุนให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านการพิจารณาและประกาศใช้เป็นกฎหมาย ยิ่งไปกว่านั้น ต่อไปการจัดทำงบประมาณจะมีมิติมากขึ้น ประชาชนและสื่อมวลชนจะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันตรวจสอบจากการมีข้อมูลภาครัฐที่เปิดเผย จึงถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ที่เชื่อว่าจะสามารถผลิกโฉมประเทศไทยได้ในทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน