"จิรายุ"ไม่ถือ "สุชาติ" ด่าความรู้เท่าหางอึ่ง โต้กลับทุกประเด็น

2020-09-24 15:30:41

"จิรายุ"ไม่ถือ "สุชาติ" ด่าความรู้เท่าหางอึ่ง โต้กลับทุกประเด็น

Advertisement

"จิรายุ"ไม่ถือสา "สุชาติ" ด่าความรู้เท่าหางอึ่งกรณี "ศรีพันวา" โต้กลับทุกประเด็น  ชี้ใครกินปลาน้อยผู้ประกันตนจะเป็นผู้ตอบ

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน  กล่าวถึงกรณีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น  รมว.แรงงานออกมาตอบโต้กรณีเอาเงินของสำนักงานประกันสังคมไปลงทุนในศรีพันวาว่าไม่รู้ข้อมูลการลงทุน มีความรู้เท่าหางอึ่ง ว่า ตนไม่ถือเพราะวงการการเมือง ส่วนใหญ่คนเป็นถึงเสนาบดี มักจะมีความสุภาพ ใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถตอบ ให้มีสาระสำคัญให้กับประชาชนผู้เสียภาษี ได้ประโยชน์เพื่อประชาชนประเทศชาติ  ตนมีความรู้ไม่มากแต่ มีความตั้งใจในการติดตามตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินที่เก็บมาจากประชาชน และอาศัยการเรียนรู้ตอนเป็น ผู้สื่อข่าว เป็นหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ นสพ.ข่าวหุ้น และ บก.ข่าว นสพ.ไทยไฟแนนเชียล วันนี้มาเป็นผู้แทนประชาชนก็ทำหน้าที่สอบถามรัฐมนตรีไปตามหน้าที่ด้วยถ้อยคำสุภาพ ยึดหลักการ ซึ่งตนขอเรียกร้อง ให้เซียน หรือ กูรู ในวงการลงทุน วงการหุ้น ช่วยกันตอบประเด็นที่ท่านเสนาบดีตอบโต้มา ว่าอันไหนคือความจริงกันแน่ ส่วนตนก็ขอตอบและถามประเด็นต่างๆอีกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ถูกหักเงิน ไปอยู้ในกองทุนเป็นล้านล้านบาท อีกครั้งดังนี้

1.การที่รัฐมนตรีบอกว่าเอาเงินของผู้ประกันตนไปลงทุนเพียง 500 ล้านบาทนั้น ตนยืนยันว่า “เท็จ” ก็ปรากฎตามเอกสาร ของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดหลักทรัพย์แจ้งไว้คือลงทุน 63 ล้านหุ้นราคาก็ปรากฎ ใน ก.ล.ต. ว่ามีราคา IPO ราคาที่ 10.80 บาทก็คือ 680 ล้านบาท เสนาบดีต้องไปชี้แจงกับ ก.ล.ต. มากกว่าที่จะมากล่าวหาว่าตนเดา หรือ มั่วเอง ไม่ได้ เพราะมีข้อมูลเชิงประจักษ์ ใครก็เปิดดูได้อยู่แล้ว  https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=SRIPANWA&ssoPageId=3&language=th&country=TH 2.ที่ ท่านเสนาบดี บอกว่าลงทุนไปเพียง 500ล้านบาท ได้กำไรมาตั้ง 200 ล้านบาทนั้น ก็ให้ไปดูข้อมูลการจ่ายปันผลที่ ก.ล.ต. แจ้งไว้ ว่าที่ถือหุ้นไว้ 63 ล้านหุ้นก็ได้มาเพียง 112 ล้านบาทเรื่องนี้ คนมีความรู้ มากกว่าหางอึ่งทั่วไปก็เข้าใจได้  3. เรื่องการขาดทุนทางบัญชีที่ตนระบุนั้น ก็เป็นไปตามเอกสาร ตนไม่ได้นั่งเทียนเขียนเอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็แสดงไว้ ว่า กองทุน สปส.มี 63ล้านหุ้น ที่ราคาต้นทุน 10.80 บาท ก็ 680ล้านบาท ราคาล่าสุดตกลงมาที่ 7.90 บาท ก็เหลือมูลค่าหุ้น 497ล้านบาท ก็เท่ากับขาดทุนทางบัญชีอยู่เท่ากับ 182 ล้านบาท หรือราว ๆ30 เปอร์เซ็นต์ แม้จะออกมาแก้ต่างว่า ยังไม่ได้ขายหุ้น จะมาสรุปขาดทุนได้อย่างไร พูดอีกก็ถูกอีก แต่จะถือต่อหรือจะขาย ต้องตอบผู้ประกันตน เพราะหากขายวันนี้ ก็ได้แค่ 497 ล้านบาท หรือจะถือไว้แล้วค่อยขาย เรื่องนี้ก็เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ในการลงทุนอยู่แล้ว

4 .เรื่องที่เสนาบดีอ้างว่าการลงทุนประเภทนี้ เขาดูที่ทรัพย์สินในมูลค่าราคาประเมิน ซึ่งราคาประเมินทรัพย์สินล่าสุด อยู่ที่ 3,342 ล้านบาท ถ้าหารกลับจะอยู่ที่ ราคา 11.97 บาท ต่อหน่วยลงทุน ซึ่งนั้นมันก็เป็นกำไรทางบัญชี ทำนองเดียวกับที่มาแก้ต่าง ตนเลยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ไม่รู้  ยกตัวอย่างมูลค่าหุ้นทางบัญชีของหุ้นธนาคาร “ก”อยู่ที่ 229.64 บาทต่อหุ้น แต่ตอนซื้อ บอกฉันซื้อที่ 200 บาท ฉันกำไร 29.64บาท ต่อหุ้น พูดอีกก็ถูกอีก แต่ราคาตลาด(Market price)จริง ๆตอนนี้คืออยู่ที่ 95บาท ขายตอนนี้ ก็ขาดทุน ถึง 134 บาท  กรณีแบบนี้หากพูดแบบเสนาบดี ก็พูดสวยหรูได้ว่าประกันสังคมไม่ได้ขาดทุนอะไรแต่นักลงทุนนั้นเขาไม่ได้พิจารณาแบบนั้น เขาพิจารณาว่าหากซื้อหุ้นไว้ที่ 200 บาทก็ตาม แต่ตอนนี้ก็ขาดทุนทางบัญชีเพราะราคาตลาดตกมาที่ 95 บาทส่วนกองทุนประกันสังคมถือหุ้นไว้ที่ต้นทุน10.80บาท ท่านเสนาบดีอธิบายว่าราคา NAV 11.97บาท เลยมีกำไรซึ่ง ความเป็นจริงมันคือขาดทุนทางบัญชี เก่งจริง อย่าขายทิ้งให้ถือรอไปเรื่อยๆ นี่แหละที่นักลงทุนเรียกว่า การขาดทุนทางบัญชี เข้าใจหรือไม่ (ดู https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BBL&ssoPageId=5&language=th&country=TH)  (ดู https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=SRIPANWA&ssoPageId=5&language=th&country=TH) 

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า วันนี้ประกันสังคมถือหุ้นไว้ ที่ต้นทุน 10.80บาท ท่านไปเอาราคาประเมิน NAV11.97บาท ท่านเลยอ้างว่ากำไร แต่ในกระดานเวลานี้ในตลาดร่วงไปที่ 7.90บาท ขาดทุนทางบัญชีรวม 182 ล้านบาท หรือเช่นนั้นก็ต้องให้ เสนาบดีแรงงานเป็นคนเอาไปขายในตลาดหุ้นตอนนี้ เขาจะรับซื้อท่านที่ราคา11.97บาท หรือ7.90บาท สรุปการที่ตนสอบถามไปนั้นเป็นไปได้เปิดเผยโปร่งใส ใครๆก็ดูได้ ไม่มีการบิดเบือนและถูกต้องทุกประการ ส่วนที่เสนาบดี ออกมาตอบนั้น บิดเบือนไปจากข้อมูลจริง โดยสรุป คือ 1.ที่ว่าลงทุนไปเพียง500ล้านบาท ในรายงาน ก.ล.ต.แจ้งว่า680ล้านบาท  2.ที่ว่ากำไรไปแล้ว200ล้านบาท ในรายงานนี้กำไรจริง112ล้านบาท  3.ที่ว่ายังกำไรเพราะราคาประเมิน11.97บาท แต่ที่ถูกต้องคิดที่ราคาตลาด หากนำเอามาขายวันนี้ก็ขาดทุน182ล้านบาท แต่หากไม่ขายก็เพียงขาดทุนทางบัญชี  4.ตนนำเสนอโดยอิงข้อมูลที่เปิดเผยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่วนที่ เสนาบดี ด่าเสียเทเสียตนว่า ที่ตนบอกว่าลงทุนในปี 2556 นั้น ตนมั่วเพราะเริ่มนำมาจดทะเบียนในปี2559 ตนว่าเสนาบดี ต้องไป”เบิ๊ดกะโหลก”คนให้ข้อมูลมาตอบโต้ฝ่ายค้านเพราะความจริงประกันสังคม และกองทุนฯไปลงทุนไว้ก่อนนี้แล้วตั้งแต่ปี2556

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ประเด็นนี้ฝ่ายค้านยิ่งต้องสาวลึกลงไปว่าการที่ปล่อยให้ประกันสังคมและกองทุนฯแอบไปซื้อหุ้น ลงทุนในทรัสต์นี้มาตั้งแต่ปี2556นั้น ได้ลงไปเท่าไหร่ ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่ เนื่องจากเป็นกิจการนอกตลาดหลักทรัพย์ที่สาธารณชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้เอาประกันตนที่เป็นคนจ่ายสมทบกองทุนฯยากจะเข้าถึงข้อมูล ซึ่งตนขอให้เปิดเผยข้อมูลพวกนี้ให้ผู้ประกันตนทราบอย่างเปิดเผยโปร่งใสด้วย สุดท้ายใครจะความรู้แค่หางอึ่ง ใครจะกินปลาน้อย ประชาชน ผู้ถูกหักเงินเข้าประกันสังคม จะเป็นผู้ตอบ