นายกรัฐมนตรีขอบคุณผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ กระตุ้นเศษฐกิจ ยันสถานะทางการเงิน การคลัง แข็งแกร่ง ไม่ต้องวิตกกังวล
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการคนละครึ่ง ว่าวันนี้จะมีการประชุม ศบศ.เพื่อหามาตรการโครงการคนละครึ่ง และมาตรการต่างๆ แม้ว่ารัฐบาลจะออกให้ครึ่งหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ที่เป็นผู้ประกอบการ รัฐบาลจะไปสั่งการเองมากไม่ได้ ต้องเป็นการขอความร่วมมือ ไปยังภาคเอกชน เข้าร่วมโครงการ ต้องมีการขึ้นทะเบียน จะได้ไม่มีปัญหาการรั่วไหล ขณะเดียวกัน ต้องเตรียมความพร้อมเรื่องการท่องเที่ยว แม้วันนี้ต่างประเทศจะยังเดินทางเข้ามาไม่ได้ ซึ่งในประเทศก็มีทั้งต้องการและไม่ต้องการนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ส่วนไหนพร้อมรัฐบาลจะเข้าไปเสริมให้ สำหรับเรื่องนี้ไม่มีอะไรผิดถูก ต้องดูสถานการณ์ต่างประเทศ ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะแก้อย่างไร จะทำเฉพาะในประเทศอย่างเดียวได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาร่วมกันทั้งส่วนงานราชการและประชาชน ขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือ ทำให้มีการจ้างงานที่มากขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าตำแหน่งงานไว้ 1 ล้านตำแหน่ง ขณะนี้เพิ่มไปกว่า 1 ล้านตำแหน่งแล้ว ถือเป็นรวมใจไทยสร้างชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังขอร้องสื่อมวลชน ขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข จะเสนออะไรเป็นเรื่องของสื่อ แต่ทุกคนก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้
"รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณในการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หน่วยงานเกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ว่าสถานะการเงินคงคลังสำรองมีจำนวนมาก ไม่มีทางที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ระบบเงินต่างๆ เข้มแข็ง เพียงแต่เศรษฐกิจขณะนี้จะหาเงินมาเติมใหม่ยาก วันนี้เงินสำรองมีมาก แต่เอามาใช้ไม่ได้ เว้นแต่จะนำไปใช้เมื่อยามจำเป็น เรื่องนี้มีการโจมตีหลายครั้ง ทั้งงบท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลก็ได้เติมงบประมาณให้ สิ่งใดจำเป็นเร่งด่วนก็ได้หางบให้ ไม่มีปัญหาเงินคงคลัง และยังมีเงินกองทุน แต่ถ้าจำเป็นต้องกู้ ก็จะกู้ในประเทศ ไม่มีปัญหาอะไรเลย สถานะทางการเงิน การคลัง ธนาคาร ขณะนี้ยังแข็งแกร่ง ดังนั้นไม่ต้องวิตกกังวล แต่สิ่งที่รัฐบาลกังวล คือ จะเติมเงินอย่างไร หากปัญหาเศรษฐกิจระยะเวลาทอดยาว ก็ต้องเร่งหาเงินเข้ามา"นายกฯ กล่าว