"บิ๊กกบ-บิ๊กแดง"ร่วมพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารชั้นนายพล ประจำปี 2563
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก กองทัพบกได้จัดพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารชั้นนายพลตามแนวทางของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ต้องการรำลึกถึงสถานที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในอดีต ซึ่งคือที่ตั้งของ บก.ทบ.ในปัจจุบันใกล้กับสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทั้งนี้มีนายพลทหารบกอัตราพลเอกพิเศษที่เกษียณอายุราชการ เช่น พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณพล สร้างสมวงษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด รอง ผบ.ทสส. พล.อ.จักรชัย โมกขะสมิต ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พร้อมนายพลทหารบก 258 นายเข้าร่วมพิธี ทั้งนี้พล.อ.พรพิพัฒน์ได้นำคณะถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่ห้องพระบารมีปกเกล้า ภายในพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นเป็นกิจกรรมของนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่ลานหน้าพิพิธภัณฑ์ โดยผู้แทนนักเรียนนายร้อย กล่าวตั้งปณิธานเดินตามรอยเท้า ว่า รู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละและคุณงามความดีของทุกท่าน ขอตั้งปณิธานทำตามเพื่อปฏิบัติตามรอยเท้าของท่านโดยจะปฏิบัติตนให้สมศักดิ์ศรีความเป็นชายชาติทหาร จะอยู่ในศีลธรรมอันดีของศาสนา ปฏิบัติภารกิจด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ มีสติไตร่ตรองและใช้วิจารณญาณอันเหมาะสมจะหมั่นฝึกฝนและพัฒนาตนให้มีความสามารถรอบด้าน เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มขีดความสามารถ ตระหนักถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้เพื่อดำรงรักษาและปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตลอดจนประชาชน ให้มีความผาสุก เกิดความรักความสามัคคีในสังคมอย่างเป็นปีกแผ่นมั่นคง” จากนั้นผู้ร่วมพิธีทั้งหมดร้องเพลง รั้วแดงกำแพงเหลือง และมนต์มัฆวาน ก่อนที่วงขลุ่ยกลอง 8 นายจากโรงเรียนนายร้อยฯนำแถวนายพลเกษียณฯเดินเท้ามาตั้งแถวถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ด้านหน้าหอประชุมกิตติขจร พร้อมกล่าวปฏิญาณตน 3 ครั้งพร้อมกันว่า ”ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษามรดกของพระองค์ท่านไว้ด้วยชีวิต” จากนั้นทั้งหมดได้เข้าหอประชุมฯเพื่อกระทำพิธีเทิดเกียรติ
พล.อ.พรพิพัฒน์ เป็นตัวแทนกล่าวอำลาชีวิตราชการ ว่า การปฏิบัติราชการในกองทัพนับเป็นช่วงเวลาที่ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติและประชาชนตามปณิธานที่ตั้งไว้ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี โดยมุ่งอุทิศตนทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ สติปัญญา ดำเนินภารกิจของกองทัพให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติและพัฒนาสังคมให้มีความเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้น ซึ่งภาระหน้าที่ของทหารอันมีเกียรตินี้ เป็นสิ่งที่พวกเรายึดถือปฏิบัติตลอดไปแม้เกษียณอายุราชการ มั่นใจว่าผู้ที่จะเกษียณอายุราชการทุกคนต่างล้วนสำนึกในคุณูปการกองทัพบกที่หล่อหลอมพวกเรามีจิตวิญญาณของความเป็นทหารอยู่ในสายเลือด มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แม้ต้องอำลาชีวิตราชการจากกองทัพ แต่จิตวิญญาณของความเป็นทหารอาชีพยังฝังแน่นอยู่ในจิตใจและพร้อมที่จะเสียสละตนรับใช้กองทัพและประเทศชาติในทุกโอกาส ตลอดจนจะนำประสบการณ์ที่สะสมมาตลอดชีวิตรับราชการมาสนับสนุนการดำเนินการงานของกองทัพด้วยความเต็มใจตลอดไป ทั้งนี้จะเป็นกำลังใจให้กำลังพลที่ยังราชการอยู่ในกองทัพบกสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สมกับที่ประชาชนให้ความเชื่อถือและไว้วางใจตลอดมา