หญิงหล่อแคนาดามือส่งไรซินให้ทรัมป์

2020-09-23 13:20:05

หญิงหล่อแคนาดามือส่งไรซินให้ทรัมป์

Advertisement

หญิงชาวแคนาดาแห่งรัฐควิเบก ถูกนำตัวขึ้นศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเมื่อวันอังคาร (22 ก.ย.) และศาลตั้งข้อหาอาญาดำเนินคดี หลังก่อเหตุส่งพัสดุบรรจุสารพิษไรซิน ส่งไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน


น.ส.ปาสกาล แฟร์ริเยร์ วัย 53 ปี ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ ที่ด่านข้ามเขตแดน ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ย.) และการตรวจค้นร่างกาย พบอาวุธปืนพก 1 กระบอก

เธอให้การปฏิเสธ ต่อข้อหาข่มขู่เอาชีวิตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา



พัสดุลึกลับที่ น.ส.แฟร์ริเยร์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ส่ง ถูกตรวจพบก่อนที่จะถึงทำเนียบขาว โดยแผนกคัดแยกจดหมายพัสดุประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ โดยในห่อพัสดุนอกจากผงแป้งสารพิษมรณะไรซินแล้ว ยังมีจดหมายเขียนข้อความ เรียกร้องให้ทรัมป์ถอนตัวออกจากการแข่งขันเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ในเอกสารสำนวนฟ้องของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ สหรัฐ ก่อนนำตัว น.ส.แฟร์ริเยร์ฟ้องศาลในรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า ในจดหมายเธอตั้งชื่อให้ทรัมป์ใหม่ว่า ตัวตลกทรราชหน้าตาอุบาทว์ (The Ugly Tyrant Clown) และหวังว่าทรัมป์จะชอบชื่อนี้



ในจดหมาย น.ส.แฟร์ริเยร์กล่าวหาทรัมป์ทำลายสหรัฐ และนำพาชาวอเมริกันไปสู่หายนะ เธอมีญาติอยู่ในสหรัฐ จึงไม่ต้องการให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีก ในระยะ 4 ปีข้างหน้า และหากสารไรซินที่ส่งไป ทำงานไม่ได้ผล เธออาจเปลี่ยนเป็นใช้ปืน

เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเผยว่า การตรวจสอบพัสดุ พบร่องรอยลายพิมพ์นิ้วมือของ น.ส.แฟร์ริเยร์ เป็นหลักฐานมัดตัว และการสอบสวนพบว่า เธออาจจะส่งสารไรซินไปยังผู้รับ 5 คน ในรัฐเท็กซัส รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำและฝ่ายปกครองท้องที่

น.ส.แฟร์ริเยร์ถูกนำตัวขึ้นศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีล่ามแปลภาษาฝรั่งเศสช่วยเหลือ เธอร้องขอให้ศาลตั้งทนายความให้ เพื่อสู้คดีในศาล และผู้พิพากษากำหนดนัดไต่สวนคดี นัดต่อไปในวันที่ 28 ก.ย. ซึ่งเธอจะถูกควบคุมตัวโดยตำรวจศาลจนถึงวันนั้น เนื่องจากอัยการคัดค้านการให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลเธออาจจะหลบหนี

จากรายงานของสื่อในแคนาด่า ระบุว่า น.ส.ปาสกาล เซซิล เวโรนิก แฟร์ริเยร์ มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ เกิดและเติบโตที่ฝรั่งเศส ก่อนจะอพยพมาอยู่แคนาดาและได้สัญชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2558 แต่เธอยังถือ 2 สัญชาติ ทั้งฝรั่งเศสและแคนาดา.