หนุ่มข้างบ้านคลั่ง บุกจะทำร้ายลูกสาว 2 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรีบกลับบ้านมาดูถูกยิงดับ
วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.จเร ขำแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 44/3 หมู่ที่ 8 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.โชคชัย เนียลเซ็น ผกก.สภ.วิภาวดี พ.ต.ท.ศุภชัย สังข์ประคอง รอง ผกก.สส.สภ.วิภาวิดี พ.ต.ท.กำธร จัทร์ฉาย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สิภาวดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สิภาวิดี และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8
ที่เกิดเหตุพบศพ นายนายรุ่งธรรม เมืองประเทศ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ตะกุกใต้ มีอาชีพทำสวนมะละกอ และเพาะพันธุ์มะละกอขายอยู่ในสภาพนั่งเสียชีวิต อยู่ที่เบาะนั่งด้านคนขับสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เสียชีวิตอยู่ในรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสภาพเก่า ทะเบียน บฉ 5290 สุราษฎร์ธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่มือซ้าย 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด และที่ท้องอีก 2 นัด ตรวจสอบที่บริเวณหน้าบ้านยังพบรอยเลือดอีกจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ทั่วบริเวณลานบ้าน จำนวน 6 ปลอก และหัวกระสุนจำนวน 2 หัว และที่บ้านผู้ก่อเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่อีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางบุญชีพ จันทร์แสง อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายวรเชษ ชมภูห้อย อายุ 34 ปี ก่อนเกิดเหตุได้มีลูกสาวสองคนอายุ 15 และ 18 ปี กลับจากโรงเรียนอยู่ที่บ้าน และนายวรเชษ ผู้ก่อเหตุเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และบุกเข้าไปในบ้านและพยายามจะพังประตูห้องเข้าไปทำร้าย ลูกสาวทั้งสองคนได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาตนเองที่กำลังทำสวนอยู่กับสามีจึงได้รีบขับรถจักรยานยนต์ พาลูกทั้งสองคนนั่งซ้อนท้ายรถ เพื่อจะไปแจ้งความ แต่ยังไม่ทันถึงมีญาติโทรแจ้งว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตจึงรีบกลับมาดู
พ.ต.อ.โชคชัย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวรเชษ ชมภูห้อย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 8 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี มีบ้านรั้วบ้านติดกันกับผู้ตาย จากการตรวจสอบประวัติพบผู้ก่อเหตุเคยถูกจับในคดียาเสพติด และอาวุธปืน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุขณะที่ภรรยาคนตายกำลังพาลูกสาวไปแจ้งความ เป็นจังหวะเดียวกับที่นายรุ่งธรรมสามีกลับมาที่บ้าน และเจอกับนายวรเชษ ที่กำลังมีอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงใส่ผู้ตายมาจากทางบ้านตัวเอง และผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ตอบโต้กัน ที่บริเวณหน้าบ้าน แต่ผู้ตายพลาดท่าถูกยิง และพยายามจะวิ่งหนีมาขึ้นรถที่จอดห่างจากตัวบ้านประมาณ 20 เมตร แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป