นายกฯอังกฤษคุมเข้มโควิดรอบใหม่ยาว 6 เดือน วอน ปชช.ปฏิบัติตาม

2020-09-23 07:35:07

นายกฯอังกฤษคุมเข้มโควิดรอบใหม่ยาว 6 เดือน วอน ปชช.ปฏิบัติตาม

Advertisement


นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ต่อประชาชนในชาติ เรียกร้องปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มครั้งใหม่ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นเพื่อบังคับใช้ควบคุมไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่าจะระบาดรุนแรงรอบ 2 มิเช่นนั้น อาจมีล็อคดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงต่อประชาชนในชาติผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ในวันอังคารให้ทำงานจากที่บ้านเท่าที่เป็นไปได้ และสั่งให้ร้านอาหารและบาร์ ปิดก่อนเวลาเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ที่กำลังระบาดอย่างรวดเร็ว โดยมาตรการคุมเข้มครั้งใหม่นี้ อาจใช้เวลานานถึง 6 เดือน หลังจากมีคำเตือนจากคณะนักวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาของรัฐบาล ว่า อัตราการเสียชีวิตอาจพุ่งสูงขึ้นหากไม่มีมาตรการเร่งด่วนรับมือ นายจอห์น ยังไม่ได้ตัดสินใจใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั้งประเทศอีกครั้ง เหมือนที่เคยบังคับใช้ในเดือนมีนาคม แต่ก็เตือนว่า อาจมีมาตรการเพิ่มเติม หากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายได้



เขาชี้แจงต่อรัฐสภา หลังการประชุมฉุกเฉินกับคณะรัฐมนตรีลาบรรดาผู้นำของรัฐบาลในสหราชอาณาจักรว่า เขาขอสงวนสิทธิ์ในการใช้อำนาจเพิ่มเติม ด้วยการใช้มาตรการคุมเข้มมากขึ้น

ทั้งนี้ เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังเรียกร้องให้ประชาชนเริ่มกลับไปทำงานตามปกติ นายจอห์นสันได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลพักอยู่ที่บ้าน หรือ stay at home และทำงานจากที่บ้าน หากสามารถทำได้ พร้อมทั้งสั่งให้ผับ, บาร์, ร้านอาหารและสถานบริการอื่น ๆ ทั้งหมดปิดในเวลา 22.00 น. นับจากวันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป โดยร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม อนุญาตให้มีพนักงานบริการถึงโต๊ะ (table service) เท่านั้น



ในการแถลงผ่านโทรทัศน์ช่วงไพรม์-ไทม์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ยุทธศาสตร์เขาเขาจะต้องประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปได้ พร้อม ๆ กับการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด

นายจอห์นสัน บอกด้วยว่า เขาไม่ได้ต้องการที่จะละเมิดเสรีภาพของใคร แต่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและป้องกันไม่ให้มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ประเทศรอบใหม่ เราต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในตอนนี้ วิธีการนี้ จะทำให้ประชาชนไปทำงานได้ ร้านค้าและโรงเรียนเปิดต่อได้ และประเทศก็เดินหน้าได้เมื่อเราร่วมแรงร่วมใจในการหยุดยั้งการระบาดของไวรัสร้าย

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ จะเพียงพอในการควบคุมการระบาดของไวรัสรอบ 2 ได้หรือไม่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เตือนแล้วว่า อาจมีผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 50,000 รายภายในกลางเดือนตุลาคมนี้

นายจอห์นสัน บอกด้วยว่า จะต้องมีการบังคับใช้หน้ากากอนามัยมากขึ้น จะมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นมากขึ้น และกองทัพอาจต้องเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยยังคงเปิดต่อไป



สหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดสูงสุดในยุโรป อยู่ที่ 41,951 ราย และติดเชื้อทั่วประเทศ 406,053 ราย ขณะเดียวกันอังกฤษก็กู้ยืมเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่ออัดฉีดเงินฉุกเฉินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของไวรัส

รัฐบาลอังกฤษกำหนดวงเงินค่าปรับสูงสุด 10,000 ปอนด์ หรือราวๆ 400,000 บาท สำหรับพลเมืองกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยแต่ไม่ยอมกักตัว และตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. เป็นต้นไป บุคคลใดก็ตามที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก หรือได้รับคำสั่งจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ให้ต้องกักตัวเอง ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามนั้น