"ตร.กองปราบ" บุกจับ "ผู้ต้องหา" ข่มขืน "นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน" ก่อนบุกรวบ "เฒ่า" หื่นข่มขืนหลานบุญธรรม
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.ต.พิทยา ธนาวุฒิ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายนิมมิต สิริวัตพงศ์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.592/2562 ลงวันที่ 24 เม.ย. 2562 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซ.ลาดปลาเค้า 13 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ขณะที่ น.ส.ลี (นามสมมุติ) นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน กำลังพักผ่อนอยู่เพียงลำพังที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 60/2 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ระหว่างนั้น นายนิมมิต ผู้ต้องหา เดินเปลือยกายบุกตรงเข้าไปภายในห้องพัก พร้อมพูดว่าอยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย ก่อนใช้กำลังบังคับข่มขืนผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงนำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก จนมีการออกหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายนิมมิต ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ย่านลาดปลาเค้า จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวดังกล่าว จากการสอบสวน นายนิมมิต ให้การปฏิเสธ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ยังนำกำลังเข้าจับกุม นายชู พันพา อายุ 69 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.76/2559 ลงวันที่ 29 เม.ย.2559 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 67 ม.3 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยการจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเมื่อปลายปี พ.ศ.2558 นายชู ผู้ต้องหา ได้คบหาอยู่กินฉันสามีภรรยากับ นางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นครพนม และมี ด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 4 ขวบ วึ่งเป็นเด็กที่นางเอ ขอนำมาอุปการะเลี้ยงดูแทนพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก มาอาศัยอยู่ร่วมด้วย
โดยในวันเกิดเหตุเป็นช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 28 ก.พ.2559 นายชู อาศัยจังหวะที่ นางเอ กำลังนอนหลับ แอบย่องไปก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.ซี ที่นอนหลับอยู่อีกห้องพักหนึ่ง ก่อนจะพูดข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร จนรุ่งเช้าระหว่างที่นางเอ กำลังอาบน้ำให้กับ ด.ญ.ซี ได้พบเห็นอวัยวะเพศของเหยื่อมีอาการบวมแดงผิดปกติ จึงพยายามเค้นถามจนทราบความจริง ก่อนนำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีสงคราม จนมีการออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม นายชู ไหวตัวทันชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายชู หนีไปประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และรับจ้างทั่วไปอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จึงสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวน นายชู ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.ศรีสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป