เจ้าแม่ที่ดิน"ต่าย อรทัย" หนุ่มนอกวงการพิชิตใจแล้ว

2020-09-22 09:50:00

เจ้าแม่ที่ดิน"ต่าย อรทัย" หนุ่มนอกวงการพิชิตใจแล้ว

Advertisement

เรียกได้ว่าเป็นนักร้องขวัญใจของใครหลายๆคน สำหรับ "ต่าย อรทัย ดาบคำ" ซึ่งเจ้าตัวนั้นมีผลงานเพลงฮิตติดหูมากมาย จนได้รับฉายาว่า "สาวดอกหญ้า" ที่แฟนๆตั้งขึ้นให้ ซึ่งล่าสุดนักร้องลูกทุ่งสาวขวัญใจมหาชนได้มาเยือนรายการต้มยำอมิรนทร์ พร้อมโชว์เพลงสิมาฮักหยังตอนนี้ ที่ในเพลงนี้ยอดวิวพุ่งไปกว่า 150 ล้านวิวไปแล้วคาดว่าน่าจะไปต่อแบบไม่มีแผ่ว งานนี้สาวต่ายโชว์เสียงหวานสะกดใจทั้งสตูแล้ว ยังได้เปิดใจพูดถึงเรื่องความรักที่หลายคนอยากรู้ โดยเจ้าตัวได้เผยว่า



ในชีวิตเคยโกรธ หรือ โมโหบ้างไหม?  

เคยค่ะ แต่เราแสดงออกด้วยการนิ่ง เงียบ เพราะเราไม่เคยมีปัญหากับคนที่เราทำงานด้วยเราเลือกที่จะเงียบมากกว่า ให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วค่อยคุยกัน




เป็นคนที่เรียบร้อยมาก เวลาอัดเพลงเคยมีอารมณ์แบบโมโหหรืออะไรบ้างไหมเอาใหม่ได้ไหม?  

ไม่เลยค่ะ เราก็จะคุยกับอาจารย์ว่าตรงนี้หนูไม่ได้นะคะ ขอเปลี่ยนหรือขยับ ส่วนมากจะคุยให้ลงตัวที่สุด



อารมณ์นิ่งเงียบเย็นขนาดนี้ แต่เพลงไม่นิ่งนะ เพราะตอนนี้เพลง สิมาฮักหยังตอนนี้ เกือบ 200 ล้านวิวแล้ว?  

หวังเหมือนกัน อยากให้ไปทะลุมากกว่านั้น แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไปเพราะศิลปินเพลงก็ออกมาเยอะ แต่ก็อยากให้วิวขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ

ต่าย อรทัย นับว่าเป็นอีกศิลปินที่มีเพลงฮิตติดหูหลายเพลงมาก จนได้ฉายา สาวดอกหญ้า แห่งวงการลูกทุ่ง ฉายานี้มาได้ยังไง?

น่าจะมาจากเพลงอัลบั้มชุดแรก เป็นชื่อเพลงและอัลบั้มด้วย ดอกหญ้าในป่าปูน คือเพลงได้แต่งขึ้นมาจากในชีวิตของเรา เราก็เป็นสาวต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เข้ามาสู้ทำงาน คือตอนนั้นเรียนจบมัธยมปลายแล้วเราสอบได้ที่ราชภัฏอุบลฯ แต่เราไม่มีเงินสักบาทเลยจะเปิดภาคเรียนแล้วเราเลย ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจเข้ามาทำงานในเมืองกับคุณแม่ ที่คุณแม่ทำงานที่แคมป์ก่อสร้าง เราก็มาช่วยแม่รับจ้างซักเสื้อผ้าคนงานที่เขาไม่มีเวลา เขาก็มาจ้างเราซักห้าบาทสิบบาท ตอนนั้นอยากทั้งเรียน ทั้งทำงานเพราะอยากหาเงินเพื่อที่จะดูแลทุกคน พอแฟนๆได้ฟังเพลงนี้เขาก็นึกถึงตัวเรา และหลายคนที่สู้ชีวิตเขาก็บอกว่าเพลงนี้เหมือนตัวเขา สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเขาและได้อะไรอย่างๆหลายจากเพลงนี้ คิดว่าฉายานี้ได้มาจากเพลงนี้



เป็นคนที่ดูแลทุกคนในครอบครัวและทุกคนรอบตัว แล้วมีคนดูแลหัวใจหรือยังเอ่ย ?



ที่คุยอยู่จริงๆคือ นอกวงการค่ะ เริ่มจากการที่เรามีปัญหาเรื่องงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะคุยกันมาไกลขนาดนี้ เรามีปัญหาเรื่องงานแก้ไขไม่ได้ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนหนึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัทเหมือนกันแต่เราคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง พี่สาวที่สนิทกันเขาบอกว่าให้เราลองคุย ปรึกษากับเขาดูไหม ก็เริ่มจากการปรึกษา รู้จักกันตรงนั้นแล้วก็เริ่มคุยกันมาเรื่อยๆ จริงๆก็สนิทเป็นเพื่อนทำงานด้วย แล้วค่อยขยับมาเป็นเพื่อนด้วยความที่เขาช่วยแก้ไขเรื่องงานของเราเลยสนิทกันมากขึ้น

เป็นไปได้ไหมว่าเราจะตรงตกปลงใจกับคนนี้?

ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ก็เริ่มจากตัวเขาก่อนเราเริ่มจากคุยพิเศษไม่ใช่เพื่อนล่ะก็เริ่มจากเขา พอเริ่มจะเปลี่ยนสถานะเป็นแฟนก็เริ่มจากเขาอีกเหมือนกัน (ยิ้ม)

แล้วตอนนี้เรียกสถานะว่าแฟนได้หรือยัง? 
ยังๆค่ะ ยังพูดไม่ได้ขนาดนั้น มานั่งพูดอยู่คนเดียวเดี๋ยววันข้างหน้าก่อน

ชอบอะไรในตัวเขาคนนี้?  



เราคุยด้วยแล้วเราสบายใจ เราอยู่ด้วยแล้วเราปลอดภัย คือเราเห็นถึงความจริงใจของเขาแล้วอีกอย่างคือ คุยภาษาเดียวกันด้วย คุยกันนิดหน่อยเราก็เข้าใจกันแล้ว เป็นคนทางภาคอีสานเหมือนกันค่ะ

คนนี้ตรงสเปกไหมเอ่ย?

จริงๆเป็นคนไม่ได้ตั้งสเปกเลยเราคุยแล้วเราปลอดภัย สบายใจ มีอะไรแล้วเข้าใจกันง่ายเท่านั้นก็พอ



เรียกว่าตอนนี้หัวใจไม่ว่างแล้ว แต่ถ้าวันไหนว่าง ต่าย อรทัย จะไม่อยู่นิ่งต้องไปเดินหาซื้อที่ดินทันที?



ไม่ใช่ค่ะ ไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าก็มี ซื้อที่ก็มี แต่ตอนนี้พอแล้วค่ะ หยุดแล้วจริงๆไปซื้อแถวนครนายกค่ะ ตำบลเขาพระค่ะ จริงๆไม่คิดว่าจะมีที่ตรงนี้ด้วยซ้ำนะคะ มีผู้ใหญ่แนะนำแล้วคือเราไปทุกครั้งแล้วคือไม่ใกล้จากกรุงเทพฯด้วย เรารู้สึกว่ามันมีภูเขามันสวยค่ะ เรารู้สึกว่าวันหนึ่งถ้าเป็นที่ที่เราจะไปอยู่ตอนบั้นปลายชีวิตหรือเปล่าแล้วก็รู้สึกว่าไปมากรุงเทพฯ ได้ง่าย ตอนนี้ปรับที่ดินตรงพื้นนั้นแล้วเอาต้นไม้เอาอะไรไปลง แล้วก็ที่อุบลฯในเมืองที่บ้านเกิด

เห็นว่าบ้านที่กรุงเทพฯกำลังปรับปรุงอยู่ด้วย?

คิดจะปรับปรุงมานานแล้วค่ะ เพราะหลังคามันรั่วเลยทำใหม่ทีเดียวไปเลย เป็นแนวสไตล์โมเดิร์นคลาสิก เพราะเราชอบความเป็นธรรมชาติบอกช่างว่าต้นไม่ที่มีอยู่แล้วห้ามเอาออกนะ อยากได้ความเป็นเหล็กผสมไม้จะได้ดูเป็นธรรมชาติด้วย งบในการทำบ้านหลังนี้คือบานปลายมาก แต่เราก็ตั้งเป้าและคิดไว้นานประมาณ 4–5 ปีที่จะทำ เราเลยทำงานเก็บเงินเพื่อที่จะมาทำบ้านหลังนี้

พอพูดถึงเรื่องงานซึ่งตอนนี้หลังจากโควิดมาคือ มีงานจ้างแค่ 1 งาน? 
 
ตั้งแต่หยุดโควิดคือปลายมีนาคม คืองานที่มีก็เลื่อนไปก่อนเราก็เลื่อนไปเลื่อนมาแล้วก็ไม่มีเราก็ทำใจเลย แต่ก็ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ เพราะช่วงต้นปีเราเพิ่งลงทุนทำโชว์ไปแล้วช่วงที่หยุดไปคือ ช่วงหน้างานพอดี แต่พอหยุดโควิดคือ 4 เดือน คือเราเครียดทุกวันเพราะเราทำบ้านอีกปีนี้ด้วย แล้วคือ ช่างลงเสาลงอะไรไปแล้วจะหยุดก็ไม่ได้ เงินก็ต้องออกจ่ายค่าช่างอย่างเดียว เงินรายรับไม่มีเข้ามาเลย เครียดไม่รู้จะทำยังไง

แต่เพราะเป็นคนที่วางแผนอะไรไว้ล่วงหน้าเลยทีธุรกิจใหม่ขึ้นมาด้วย?

เป็นสวนของ อรทัยเอง ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเปิดขาย ช่วงโควิดเราไม่ได้ออกไปไหนเราเลยหาอะไรทำ ตอนแรกเราปลูกผักบุ้ง ดูวิธีการปลูกจากในยูทูป เราก็เอามาทานก่อนเราเองทานได้แล้วก็แจกเพื่อนบ้าน แล้วเราก็ดูว่ามีอะไรที่ปลูกง่ายกว่านี้ไหม ก็ปลูกต้นอ่อนทานตะวัน เราปลูกได้แล้วเราขายได้ไหม เราเลยถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในเฟสดู แฟนเพลงสั่งเราก็ดีใจว่าสั่งจริงเราเลยปลูกจริงจังเลย เราซื้อเมล็ดมาแล้วก็มาเพาะปลูกเอง ที่ปลอดภัยไร้สารพิษแน่นอนค่ะ ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจ สวยไปด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน ออร่า ทัย ธุรกิจนี้ทางผู้ใหญ่ได้คุยกันว่าจะทำขึ้นตั้งแต่ปี 61 แล้ว ตอนนั้นคือเรามีปัญหาเรื่องงานเรื่องเพื่อนร่วมงานแต่พอทุกอย่างโอเคลงตัวจึงได้ลงมือทำ ฝากทุกคนกด้วยนะคะกับธุรกิจนี้ (ยิ้ม)