"วิระชัย" ไล่ฟ้องกราวรูด "8 ตำรวจ" ชี้มูล "ผิดวินัยร้ายเเรง" ปมสอบคลิปเสียงสนทนากับ "บิ๊กเเป๊ะ"
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 31 ก.ค.2563 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปสำรองราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ 9 ก.ค.2563 หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ล่าสุดมี่รายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ต.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ, พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์, พ.ต.อ.อุกฤษฏ์ ศรีเสือขาม, พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ, พ.ต.อ.สมเกียรติ ค้ำชู และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท.144/2563 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,157 เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
โจทก์บรรยายคำฟ้องว่า จำเลยทั้ง 8 เป็นเจ้าพนักงานและมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 24/2563 กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเกี่ยวกับคลิปโทรศัพท์การสนทนา กรณีคนร้ายยิงรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กับโจทก์ แต่จำเลยทั้ง 8 ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยร่วมกันจัดทำรายงานพร้อมสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของโจทก์
โดยได้กล่าวหาว่าการกระทำของโจทก์มีมูลเพียงพอรับฟังได้ว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง เป็นการใช้ดุลพินิจโดยอำเภอใจ มิได้พิจารณาโดยใช้ดุลพินิจอย่างเที่ยงธรรม ถูกต้อง เหมาะสม การรายงานผลดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ถูกกล่าวหาทางคดีอาญา ถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง และถูกสำรองราชการให้พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขาดคุณสมบัติในการได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ไม่ได้รับเงินประจำตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งกรรมการข้าราชการตำรวจ โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.