การลงคะแนน เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 เริ่มเปิดฉากแบบลงคะแนนล่วงหน้าส่วนบุคคล เมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) ในพื้นที่ 4 รัฐ ประกอบด้วย รัฐมินนิโซตา รัฐ เวอร์จิเนีย รัฐเซาท์ดาโกตา และรัฐไวโอมิง โดยการลงคะแนนล่วงหน้าจะมีขึ้นไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.
เมื่อวันศุกร์ 2 ผู้สมัครแข่งขันตัวเต็ง ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ของพรรคเดโมแครต ต่างลงพื้นที่หาเสียงในรัฐมินนิโซตาพร้อมกัน โดยทรัมป์ซึ่งมีคะแนนนิยมตามหลังไบเดน จากโพลสำรวจส่วนใหญ่ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. พยายามจะตีตื้นดึงคะแนนเสียงในรัฐมินนิโซตา ที่เขาเคยพ่ายแพ้ประมาณ 1.5 % ให้กับนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี พ.ศ. 2559
ไบเดนซึ่งไปเยือนศูนย์ฝึกอบรมช่างไม้ ในเมืองเฮอร์แมนทาวน์ กล่าวโจมตีทรัมป์ล้มเหลวในการบริหารจัดการ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้อัตราคนว่างงานในประเทศสูงขึ้น พร้อมกับให้คำมั่น จะทุ่มเงินลงทุนจำนวน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคทั่วสหรัฐ และแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังและถูกทาง
ทางด้านทรัมป์ ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยหาเสียง ที่ลานสนามบินเมืองเบมิดจี เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ ว่า เขามั่นใจจะชนะการเลือกตั้งในเขตรัฐมินนิโซตา ที่เขามีผลงานทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งในปี 2562 ก่อนจะเกิดการระบาดของโควิด-19 พร้อมกับกล่าวโจมตีนโยบายผู้ลี้ภัยของไบเดนว่า หากไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี รัฐมินนิโซตาจะถูกทำลายโดยผู้อพยพต่าง ที่ไบเดนจะปล่อยให้ทะลักเข้าสู่รัฐ
โพลสำรวจล่าสุด ไบเดนยังมีคะแนนนิยมนำหน้าทรัมป์ ในเขตเลือกตั้งรัฐมินนิโซตา โดยเว็บไซต์ติดตามโพลสำรวจ RealClearPolitics แสดงให้เห็นว่า ถึงวันศุกร์ที่ 18 ก.ย. ไบเดนนำหน้าทรัมป์ในเขตรัฐนี้ โดยเฉลี่ย 10.2 %.