"ภูมิธรรม"วอนสังคมป้องกันคุกคามทำร้ายขบวนการประชาธิปไตย

2020-09-19 09:40:25

"ภูมิธรรม"วอนสังคมป้องกันคุกคามทำร้ายขบวนการประชาธิปไตย

Advertisement

"ภูมิธรรม"โพสต์ จาก 19 ก.ย.49 ถึง 19 ก.ย.63  วอนสังคมป้องกันไม่ให้มีการคุกคามทำร้ายขบวนการประชาธิปไตย ป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำที่ก้าวสู่อำนาจใหม่อีกครั้งของเผด็จการในทุกรูปแบบ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ Phumtham Wechayachai  ระบุว่า จาก 19 ก.ย.49 ถึง 19 ก.ย.63  สังคมไทยเรียนรู้อะไร หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ได้เกิดการรัฐประหารรัฐบาลของพรรคไทยรักไทยที่มี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็น นายกรัฐมนตรี โดย”คณะรัฐประหาร” ที่เรียกตัวเองว่า  คมช. การรัฐประหารในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบทอดอำนาจของเผด็จการสีเขียว ซึ่งยังได้ทำการต่อเนื่องอีกครั้งในปี 2557 โดยคณะ คสช.ที่เป็นต้นทางการสืบทอดอำนาจต่อมาของคณะรัฐบาลปัจจุบัน การรัฐประหารที่เป็นมรดกจาก คมช. สู่ คสช. คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการต่างๆ ที่บิดเบี้ยว ทั้งนี้ด้วยเหตุผลเดียวคือ การทำลายคณะบุคคลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ทำลายระบบความยุติธรรมของประเทศ ขัดกับหลักนิติธรรมจนขาดความน่าเชื่อถือ อีกทั้งตัดตอนกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ในกลไกการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยของสังคมไทย จนส่งผลกระทบรุนแรงถึงระบบการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร ที่รวมศูนย์อำนาจผ่านกลไก ส.ว. ระบบเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ไร้ทางออกที่กำลังส่งผลให้ประเทศและประชาชนกำลังจะล่มสลาย การใช้งบประมาณในการฟื้นฟูระบอบทหารด้วยการจัดซื้ออาวุธที่ไม่ได้มีความจำเป็นเพียงพอ เมื่อเทียบกับการขาดไร้ความมั่นคงทางปากท้อง ส่งผลต่อการไร้ความสุขและความหวังในชีวิตของประชาชนไทย สังคมไทย โดยผู้นำรัฐบาลทหารที่พยายามสร้างรัฐทหารขึ้นใหม่ ได้นำพาประเทศถอยหลังกลับไปอย่างยากที่จะฟื้นตัวกลับมา

มาถึงวันนี้ผมคิดว่ากระบวนการเรียนรู้ประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิตนักศึกษา และคนรุ่นใหม่ ได้เริ่มต้นอีกครั้ง อย่างมีพัฒนาการ เพราะในช่วงเวลานับตั้งแต่ 19 ก.ย. 2549 นั้น ท่ามกลางบริบทของสังคมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และหลักการที่บิดเบี้ยว สองมาตรฐาน พวกเขาล้วนเรียนรู้ และเติบโตขึ้นมาซึ่งได้กลายเป็นที่มาของแนวคิดเสรีภาพ ความเสมอภาค และความยุติธรรมของสังคม คำถามสำคัญที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ตั้งคำถามกับความล้มเหลวของกระบวนการต่างๆ ที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งของการตกผลึกทางความคิดที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง อันเป็นเหตุผลในการนัดชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. นี้ สิ่งหนึ่งที่สำคัญและชัดเจน ที่อธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นของการเคลื่อนไหวของเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชน ในช่วงปัจจุบันคือ ระบอบเผด็จการ ที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน และห่างไกลจากความเป็นประชาธิปไตยนั้นมิใช่คำตอบที่จะทำให้เกิดการกินดี อยู่ดี และชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และมิได้อำนวยให้เกิดความเคารพ และมีหลักประกันในสิทธิและเสรีภาพ ของประชาชน

คนดี มิใช่คำตอบที่มาทดแทนระบบที่ดี เพราะอำนาจที่ไร้การควบคุม ไร้การตรวจสอบ มักทำให้คนดีผิดเพี้ยนและคอร์รัปชั่น แต่ในทางตรงข้ามระบบที่ดีที่มีการตรวจสอบ และถ่วงดุลต่างหาก ที่สร้างหลักประกันและสามารถควบคุมอำนาจต่างๆ ให้ประชาชน เกิดความมั่นใจ นี่คือพัฒนาการของกระบวนการประชาธิปไตยที่สังคมไทยต้องเรียนรู้ และต้องช่วยกันป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ อย่างเช่นในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ลูกหลานของเรา ได้สานฝันและกำหนดอนาคตที่พวกเขาพึงประสงค์ ด้วยตัวของพวกเขาเอง อนาคต และความเป็นประชาธิปไตย ต้องเกิดขึ้นและถูกกำหนดด้วยสองมือของพวกเขา และเสร็จสิ้นผ่านเจตนารมณ์และปัญญาบริสุทธิ์ของคนรุ่นเขาเองหากจะมีการกระทำใดๆ ที่เป็นการใช้เงื่อนไขความรุนแรง เพื่อละเมิดสิทธิหรือทำร้ายเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชนที่รักประชาธิปไตย ผมขอให้ร่วมกันจับตามอง เฝ้าระวัง เพื่อให้สายตาของสาธารณชนได้ร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทำร้ายแก่ขบวนการประชาธิปไตย และป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำที่ก้าวสู่อำนาจใหม่อีกครั้งของเผด็จการในทุกรูปแบบ

ขอบคุณเพจ Phumtham Wechayachai