"เทพไท" ระบุ 3 เหตุผลคนร่วมม็อบเยอะ แนะ "บิ๊กตู่" เร่งปลดล็อกแสดงความชัดเจนหนุนแก้ รธน.อย่าประเมินการชุมนุมต่ำเกินไป นำประเด็นโควิด-19 มาปรามไม่ได้ผล
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาปลดแอก ในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. ว่า การชุมนุมครั้งนี้ ถ้าจะมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก ก็น่าจะมาจากเหตุผล 3 ประการ คือ 1.มีการโหมโรงการชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดแฟลชม็อบในสถานที่ต่างๆมาหลายครั้ง และทุกครั้งก็มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก มีการสร้างกระแสข้อเรียกร้อง สะสมมวลชน มาโดยตลอด จนเป็นที่ยอมรับจากมวลชนอย่างกว้างขวาง 2.จากท่าทีของผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้ออกประกาศห้ามการชุมนุมในบริเวณพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จนถึงขั้นต้องออกประกาศปิดมหาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีปฏิเสธการชุมนุมของนักศึกษา ซึ่งส่วนหนึ่งที่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เอง จึงทำให้เกิดแรงกดดันจากมวลชนที่ต้องการอยากจะใช้สถานที่ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นฐานที่มั่นในการชุมนุมครั้งนี้ เมื่อทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปฏิเสธกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ จึงทำให้มวลชนมีความรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ใช่มหาวิทยาลัยของประชาชนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา 3.ท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อข้อเรียกร้องของการชุมนุม 3 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเรียกร้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จนถึงบัดนี้ยังไม่มีท่าทีหรือการส่งสัญญาณใดๆที่ชัดเจนจากรัฐบาล ต่อสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จหรือไม่ เพราะจำนวนสมาชิกวุฒิสภา 1 ใน 3 คือ 84 คน ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะยกมือสนับสนุนญ้ตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล หรือของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ต้องการที่จะปลดล็อกการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาปลดแอกในครั้งนี้จริง ต้องส่งสัญญาณแบบชัดๆ ต่อทุกภาคส่วนว่า รัฐบาลต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จจริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ภาพหลวงตา ต้องการสร้างภาพให้ให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะทำตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลแล้วเท่านั้น
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้รัฐบาลประเมินการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาปลดแอกต่ำเกินไป ใช้วิธีแก้ปัญหาเพียงแค่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ นำประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาห้ามปรามการชุมนุม ซึ่งไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้ผู้จะเข้าร่วมการชุมนุมยอมรับได้ เพราะการชุมนุมครั้งนี้แตกต่างกับการชุมนุมทางการเมืองในทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถ้ารัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจจะทำให้การชุมนุมลุกลามและยกระดับการชุมนุม จนทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ของการชุมนุมได้ และจะเกิดวิกฤติทางการเมืองของบ้านเมืองครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง