สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดในวันพฤหัสบดี มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งเกิน 30 ล้าน และเสียชีวิตกว่า 940,000 ราย โดยที่ยังไม่มีแนวโน้มว่า การระบาดจะชะลอลง
อินเดียยังเป็นศูนย์กลางการระบาด แม้ว่าอเมริกาเหนือและใต้ รวมตัวเลขผู้ติดเชื้อแล้วสูงเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันมานี้ และผู้เสียชีวิตก็ขยับเข้าใกล้ 1 ล้านรายแล้ว ขณะที่นานาชาติต่างเร่งพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดอย่างเป็นทางการขณะนี้ สูงกว่าผู้ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ประจำปี ถึง 5 เท่า
ในสัปดาห์นี้ อินเดียกลายเป็นประเทศที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ที่มีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 5 ล้านราย โดยในวันพฤหัสบดี อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายวันเกือบ 98,000 ราย ประเทศเอเชียใต้แห่งนี้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รายงานมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่าสหรัฐ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในอินเดีย จนถึงขณะนี้ ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีแนวโน้มสูง และอินเดียมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 รายทุกวันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนสหรัฐมีผู้ติดเชื้อคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นของทั่วโลก และบราซิล ประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงเป็นอันดับ 3 ของโลก ผู้ติดเชื้อคิดเป็นประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์จากทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ใช้เวลา 18 วัน จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วโลก พุ่งจาก 25 ล้านราย เป็นมากกว่า 30 ล้านราย แต่ใช้เวลา 20 วัน จาก 20 ล้าน เพิ่มเป็น 25 ล้าน และ 19 วัน จาก 15 ล้านเป็น 20 ล้าน อัตราการติดเชื้อรายวัน กำลังชะลอลง สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าในการควบคุมการระบาดของไวรัสในหลายประเทศ แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย
ออสเตรเลีย รายงานผู้ติดเชื้อต่ำสุดในวันเดียวเมื่อวันพฤหัสบดีนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ขณะที่มาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นในเมืองเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบ 2 ดูเหมือนจะได้ผลดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเน้นย้ำว่า ข้อมูลที่ปรากฏน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลายประเทศที่มีขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้ออย่างจำกัด
มีการเร่งการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิดมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ โดยมีประมาณ 200 เจ้าทั่วโลกที่กำลังเร่งพัฒนา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐอาจได้วัคซีนพร้อมใช้งานก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน แถลงในสัปดาห์นี้ว่า จีนอาจมีวัคซีนพร้อมใช้อย่างเร็วสุดในเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ความอันตรายของไวรัสโควิด-19 ยังคงห่างไกลไข้หวัดสเปนที่ระบาดในปี พ.ศ.2461 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อประมาณ 500 ล้านคน เสียชีวิตอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญวิตกกังวลข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสที่ต่ำกว่าความเป็นจริง