2 บิ๊ก ขรก.เอี่ยวคดีสาวโกง 40 ล้าน

2020-09-17 18:25:47

2 บิ๊ก ขรก.เอี่ยวคดีสาวโกง 40 ล้าน

Advertisement

ตร.เผย 2 บิ๊กข้าราชการเอี่ยวคดีสาวโกงงบหลวง 40 ล้าน

จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.  63 ที่ผ่านมาหลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และพบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็คและการเบิกจ่ายรวม 165 ครั้ง โดยศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2563 และไม่ให้ประกันตัวตั้งแต่การฝากขังผัดแรก เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2563

ความคืบหน้าวันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกตัว พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  พร้อมทีมพนักงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ประชุมเพื่อติดตามการทำสำนวนคดี และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องประชุม ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ โดย พล.ต.ต.สุรศักดิ์ แจ้งว่าได้ประสานนายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอสำเนาเอกสารหลักฐานในการทุจริต และผลสอบสวนเบื้องต้นจากคณะกรรมการระดับจังหวัดที่เสนอถึงกระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยและรับผิดชอบทางละเมิดด้วยการชดใช้ค่าเสียหายกับข้าราชการระดับสูงในสำนักงานจังหวัด 2 ราย จากนั้นกำชับให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการสอบปากคำตัวบุคคลเพิ่มตามที่พนักงานอัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงครามร้องขอ โดยใช้เวลาประชุม 30 นาที หลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา หอยทอง พ้นการคุมขังที่เรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากที่ผ่านมาได้ครบกำหนดฝากขังครั้งละ 12 วัน จำนวน 7 ผัด รวม 84 วัน 

พ.ต.ท.พิธี  กล่าวว่า จากการติดตามพฤติกรรมของ น.ส.ขนิษฐา ผู้ต้องหา ที่บ้านพักใน ต.คลองวาฬ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับ นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี มารดาผู้ต้องหายืนยันว่าจะไม่หลบหนีตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต เนื่องจากคดีทุจริตงบประมาณ 40 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นข้าราชการระดับสูงอีก 2 ราย เนื่องจากการเข้าระบบการโอนต้องมีรหัสผ่าน และ หลังจากทีมพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนตามที่พนักงานอัยการให้สอบพยานเพิ่ม เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมมารดา และนักวิชาการการเงินและบัญชี ชำนาญการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการคาดว่าจะใช้เวลารวบรวมเอกสารไม่เกิน 15 วัน

“สาเหตุที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนไม่ทัน ทำให้ผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาจากขั้นตอนการทำหนังสือขอเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายเช็คจากธนาคารแห่งหนึ่ง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับระบบการเบิกจ่ายเงินในระบบ GFMIS ขณะที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการฯห้สอบปากคำเพิ่ม น.ส.ขนิษฐา มารดา ลุงของผู้ต้องหา และ สามีที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวในสำนักงานจังหวัด เนื่องจากมีข้อสงสัยกรณีผู้ต้องหาโอนเงินจากการทุจริตเข้าบัญชีลุงและสามี สำหรับการสรุปสำนวนจาก 165 คดีที่มีการทุจริตต่อเนื่อง 165 ครั้ง พนักงานอัยการได้สั่งให้ทำสำนวนแยกแต่ละคดีโดยมีรายละเอียดตามข้อกล่าวหาให้ชัดเจน” พ.ต.ท.พิธี กล่าว 

นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา รองประธานกรรมการธรรมาภิบาล จ.ประจวบคีรีขันธ์  กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยในระดับจังหวัดแจ้งว่าในเดือน ต.ค.นี้ จะครบกำหนดคืนเงินประกันสัญญาซึ่งเป็นเงินงบประมาณที่รับผิดชอบโดยสำนักงานจังหวัด และที่ผ่านมามีการทุจริตเบิกจ่ายออกนอกระบบ จะทำให้มีผลกระทบกับผู้รับเหมาหลายรายที่ครบกำหนดเวลาได้รับเงินคืนในการวางเงินประกันสัญญามูลค่าหลายล้านบาท และทราบว่าที่ผ่านมามีการเจรจาเพื่อขอจ่ายคืนให้ผู้รับเหมารายย่อยไปก่อน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้เห็นชอบให้จังหวัดมีการโอนเงินจากหมวดรายจ่ายอื่นให้บริษัทรับเหมา 

แหล่งข่าวระดับสูงของ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ผลการสอบข้อเท็จจริงในระดับจังหวัดที่มีปลัดจังหวัดทำหน้าที่ประธานสอบสวน ได้ขอต่ออายุการสอบสวนจากผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 เนื่องจากติดขัดในการติดตามข้อมูลในระบบการเงิน ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์ และหลังจากมีการสรุปข้อเท็จจริง จังหวัดได้แจ้งให้กระทรวงมหาดไทยรับทราบ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและการรับผิดทางละเมิด ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันอยู่ในช่วงการพิจารณาแต่งโยกย้ายในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ อาจทำให้คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยล่าช้า เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดถือว่ามีคุณสมบัติเข้าข่ายได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด หากยังไม่ถูกตั้งกรรมการสอบทางวินัยจากความบกพร่องและประมาทเลินเล่อในการกำกับการทำหน้าที่ควบคุมระบบการเงินในหน่วยงาน