ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 แจงแผนปฏิบัติการจับหมีควายวางแผนรัดกุมปลอดภัยทั้งคนและหมี
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กล่าวว่า ขอบคุณและชื่นชมทุกหน่วยงานที่ร่วมในภารกิจติดตามหมีควายจนช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติภูเวียง อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน สถานีควบคุมไฟป่าภูผาม่าน อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ ภูกระแต เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อุทยานแห่งชาติน้ำพอง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าขอนแก่น สถานีควบคุมไฟป่าภูเวียง ภูพานคำ ทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ทีมสัตวแพทย์จากกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า อบต.บริบูรณ์ ชุดกู้ภัยศรัทธาธรรม ชุดกู้ภัยอาเซียน ชุดกู้ภัยร่วมกตัญญู (เกษตรสมบูรณ์) สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ อาสากู้ภัยบูรพา (บ้านแท่น) ปกครองอำเภอสีชมพู กองร้อย อส.อำเภอสีชมพู รวมถึงประชาชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2563) เจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังบริเวณรอบวัดป่าห้วยหินลาด เพื่อติดตามหมีควาย ในเวลา 13.00 น. จึงได้เริ่มปฏิบัติการผลักดันหมีควายและกระชับพื้นที่ให้ปรากฏตัว จนกระทั่งเวลา 15.30 น. หมีได้ปรากฏตัวและเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการยิงยาสลบ จากนั้นหมีได้วิ่งออกมาจากเขตวัดป่าร่องหินลาด แล้ววิ่งหลบออกมาล้มที่บริเวณทุ่งนาของราษฏรบ้านโนนทองหลาง ต.สีชมพู หลังจากนั้นสัตวแพทย์จึงเข้าทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำเข้ากรงเพื่อขนย้ายไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อดูแลรักษาต่อไป
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามแผนการอย่างเคร่งครัด มีการปรับแผนการจับหมีให้มีความละเอียดรอบคอบมากขึ้นเน้นความปลอดภัยทั้งคน และหมีควายตลอดจนทรัพย์สินโดยได้จัดชุดลาดตระเวนไว้ในพื้นที่ เพื่อแกะรอยหมีควาย ตรวจกรงดัก และหาข่าวหมีควายในพื้นที่ เมื่อสามารถทราบว่าหมีควายอยู่ตรงไหนให้นำกรงดัก ดักเป็นรัศมี ประมาณ 100-200 เมตร และติดกล้อง camera trap หน้ากรง พร้อมเน้นย้ำให้ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับการระมัดระวังและการปฏิบัติตัว จากการถูกสัตว์ป่าทำร้าย จนกระทั่งสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ