หลังจากที่นักร้องหนุ่ม ”ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้ออกมายื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอสิทธิ์ปกครองบุตรร่วมกับ "ซาร่า คาซิงกินี" โดยหนุ่มไมค์ยังเผยอีกว่าตนนั้นได้จ่ายค่าเลี้ยงดูน้องแม็กซ์เวลล์มากถึง 10 ล้านบาท และการเรียกร้องครั้งนี้เพียงแค่ต้องการเซ็นรับรองบุตรเท่านั้น ล่าสุดไมค์ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดพร้อมกับทนายเจมส์ว่า
"ขอชี้แจงในประเด็นทำไมถึงยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อได้สิทธิ์บิดาในทางกฎหมายและปกครองร่วมเท่านั้น ไม่น่าจะใช้คำว่าพรากลูกได้ การที่ผมมีสิทธิ์นั้นไม่ได้ทำให้สิทธิของซาร่าลดลง ผมแค่ต้องการเจอลูกเท่านั้น ไม่อยากแค่จ่ายเงินแล้วไม่ได้เจอลูก ผมไม่เจอลูกประมาณเดือนมีนาคม หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอมาถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งผมเจอเหตุการณ์ค่อนข้างซับซ้อน คือผมต้องไปดักเจอที่โรงเรียนหรือใต้คอนโดฯ เขาก็บอกว่าไม่ได้กีดกัน อย่างเรื่องที่ซาร่าบอกเล่าไม่ตรงกันคือมีเหตุการณ์ที่ผมไปรอเก้อที่สนามบินในวันเกิดผม พอตอนเช้าผมก็พิมพ์ไปบอกว่าจะไปรับบ่าย 3 วันที่ 10 แล้วจะพาไปส่ง ซึ่งบางทีผมก็บอกว่าทำไมถึงอ่านแล้วไม่ตอบ อย่างวันที่ผมใส่ชุดสไปเดอร์แมนรอใต้คอนโดฯ ก็ติดต่อไม่ได้ สรุปจะยังไงเพราะรออยู่เขาก็พูดว่าไอยังไม่ตกลงเลย คือเขาเป็นคนพูดเองว่าให้มาเองก่อนผมจะบิน ผมก็ไม่พอใจเพราะไม่ถูกต้อง สรุปก็เจอลูกไม่กี่นาที มันผิดปกติตรงที่ลูกผมมีปฏิกิริยากับผมเปลี่ยนไป บางวันบอกรักผม บางวันบอกไม่รักผมแล้ว เขาเหมือนผวากังวลตลอดเวลา ซึ่งไม่เป็นไร นั่นคือผมเข้าใจว่าเป็นวันสุดท้ายที่จะเจอแล้วครับ"
"พอหลังจากนั้นวันถัดมาเขาแชตมาบอกว่าจะมารับลูกไหม ผมบอกว่ารับได้เร็วสุดกี่โมง ส่งเร็วสุดกี่โมง เขาไม่มีคำตอบมาเลย คือผมติดงานผมไม่สามารถไปรับได้เลยไปดักรอที่สนามบินรวมถึงของขวัญจากผมและแฟนคลับ ผมรอถึงสี่ทุ่มก็ไม่มีใครมา เขาก็ไม่ตอบ ทำไมถึงโกหกว่าลูกจะบินวันนี้เพราะผมไปถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกไฟลต์สุดท้ายตอนหนึ่งทุ่ม"
"ฟางเส้นสุดท้ายคือมันสะสมมาตลอด ผมคุยกับซาร่าครั้งสุดท้ายเดือนกรกฎาคม ผมถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้เขาก็ไม่ตอบ เราคุยกันได้ ใครจะอยากขึ้นศาล"
"อย่างเรื่องโรงเรียนผมถามเขาตลอดว่าจะเอายังไงเพราะพิษโควิด เมื่อต้นปีผมคุยว่าจะเอายังไง ค่าเทอมปีละ 8-9 แสน ผมไม่ไหวหรอก เพราะอาชีพเรามันไม่มั่นคง ผมก็ไปดูโรงเรียนต่างๆ ซึ่งบางที่เขาปิดรับไปแล้ว ซึ่งเหลือที่เดียวที่ดีที่สุดคือโรงเรียนเลิศล่า ค่าเทอมแสนห้า ผมไปดูสถานที่มาเอง ดูรายละเอียดทุกอย่าง ซึ่งอุปกรณ์ก็ดี ผมก็บอกซาร่าเลย เขาก็บอกอยากไปดูที่โรงเรียนประสานมิตร"
"ผมคุยกับเขาว่าจะแชร์กันไหมในสถานการณ์แบบนี้ เหมือนเขาจะรับฟังแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เนื่องที่เขาบอกว่าผมเอาลูกออกจากโรงเรียน คือผมคุยเรื่องโรงเรียนแล้ว เขาบอกว่าวันนี้คือวันสุดท้ายแล้วถ้าไม่ทำวันนี้จะไม่ได้ค่าประกันคืนจำนวนสามแสนบาท ผมก็ทำเอกสารส่งอีเมลให้ทางโรงเรียน เท่ากับลูกพ้นสภาพการศึกษา ผมถามว่าจะพาลูกกลับภูเก็ตไหม ก็ถามไปเรื่อยๆ จนโรงเรียนใกล้จะเปิดผมก็โทร.ไปโรงเรียนที่เอาลูกออกมาว่าเข้าไปเรียนต่อได้ไหม ผมก็เสียเงินไปสามแสนฟรีๆ"
"เรื่องคุณภาพชีวิตลูกอย่างเรื่องคอนโดฯ ผมหาข้อมูลให้แล้วเพราะราคาไม่แพง ทั้งเรา 4,800 บาท ถึง 13,000 บาท ซึ่งแค่เสนอไปให้เลือกเท่านั้น ถามว่าเราบังคับให้อยู่ห้องสี่พันบาทไหมคือผมไม่ได้บังคับ อย่างที่บอกผมตัดน้ำตัดไฟ คือเป็นคอนโดฯ พี่ชายผมซึ่งผมเป็นคนจ่ายค่าเช่าให้ พอโดนโควิดไม่มีคนเช่า ไม่มีค่าเช่า ซึ่งพี่ชายผมต้องการปล่อยห้องเช่า ผมก็ไปคุยกับซาร่าว่าให้เวลา 2-3 เดือน เพื่อจะไปอยู่คอนโดฯ แถวเกษตรนวมินทร์ที่ใกล้ๆ โรงเรียนลูก"
"ผมเจอผู้ชายคนนึงที่ไม่คุ้นหน้าอายุประมาณสี่สิบ ซึ่งผมรู้สึกว่าเขามาทำไม มารู้ว่าเป็นสามีญาติซาร่า ผมก็บอกพี่ชายผม เขาเลยตัดสินใจตัดคีย์การ์ด ตัดน้ำครับ เขาแจ้งมาว่าเป็นคนขนของ แต่คือเขาคือคนแปลกหน้า ทุกวันนี้เขาก็ไม่ตอบผม เราไม่ได้คุยกันตั้งแต่ 12 กรกฎาคม วันที่เกิดเรื่องที่สนามบิน ล่าสุดที่เจอคือที่โรงเรียนเห็นแค่ลูก"
"มันมีรายละเอียดมากเลยครับที่ไม่อยากพูดเลยเพราะมันจะกระทบกับลูกผม (ร้องไห้) ที่ผ่านมามันก็ดีมาโดยตลอด ผมไม่รู้ว่ามันเกิดเพราะอะไร พอผมขอลดตรงนี้หน่อย ตรงนั้นหน่อย มันก็เริ่มเกิดขึ้น ผมมีคำถามเยอะมาก ผมถามมาตลอดคือลูกผมเรียนที่ไหน อย่างค่าใช้จ่าย 2 ล้านต่อปี ผมจ่ายมาตลอด ผมจ่ายร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วันแรกที่คลอดผมจ่ายเลยครับ ผมต้องการรับผิดชอบ หลังจากนั้นก็เป็นสามหมื่นและห้าหมื่น ค่าประกันเจ็ดหมื่นต่อปี ค่าเทอมล้านกว่าต่อปี ค่าคนขับรถ ค่าพี่เลี้ยง บางเดือนเพิ่มให้เป็นสี่หมื่น ผมฝากเงินประจำให้ลูกในอนาคตเดือนละหมื่นวันหนึ่งเขาโตขึ้นจะได้มีเงินตรงนี้"
"อย่างสิทธิ์รับรองบุตรผมยอมรับลูกตั้งแต่วันแรกแล้ว ทำไมทุกคนถึงตั้งคำถามว่าทำไมเพิ่งมาเซ็นตอนนี้ แล้วสิ่งที่ผมทำมาตลอดล่ะ ผมรู้สึกว่าผมไม่มีมีสิทธิ์ตัดสินใจในตัวลูก ค่าใช้จ่ายผมก็มีเดือนปีนึงเป็นสิบล้าน ผมต้องตัดรายจ่ายลงเพราะพิษโควิด ทุกวันนี้ผมจ่ายให้ลูกสามหมื่นบาทต่อเดือนเหมือนเดิม เงินที่จ่ายทั้งหมดจ่ายเข้าบัญชีซาร่าทั้งหมดครับ อย่างปลายเดือนมีนาคมผมก็เริ่มตัดที่ผมต้องจ่ายในบางส่วน เขาบอกผมไปแตะความสุขของลูก เขาให้ลูกโทร.มาบอกว่าแม็กซ์ไม่อยากย้ายออกจากโรงเรียน ก่อนหน้านี้ลูกบอกอยากเจอผม พออีกวันบอกไม่อยากผม มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกผม"
"ในรายการที่เคยบอกว่าไม่เคยคุยเรื่องเซ็นรับรองบุตรนั้น เขาบอกให้เคารพเขาในฐานะแม่ เพราะให้ลูกโตก่อนค่อยให้ลูกตัดสินใจ ผมก็แค่คิดว่ามันเป็นเพียงกระดาษใบหนึ่งเท่านั้น เราทำให้เขาเห็นดีกว่าในอนาคต มีเวลาก็ไปเจอลูก มีงานก็ไม่ได้เจอ อย่างผมไปทำงานต่างประเทศแค่นี้คือผมไม่ดูแล ไม่รักลูกหรอ ผมไม่มีสิทธิ์กีดกันลูกกับแม่อยู่แล้วครับ เรื่องเอกสารมีครั้งหนึ่งเมื่อตอนต้นไปตอนที่เขาจะทำพาสปอร์ตให้ลูก เขาบอกต้องไปทำที่สถานที่ราชการ ผมกลัวเรื่องโควิดเลยไม่ไปทำให้ ทำไมต้องรีบทำ ทำไมต้องรีบไป ควรเรื่องโรงเรียนก่อนไหม ในใจอยากเอาลูกมาเลี้ยงเองไหมคือเขาต้องมีแม่ มีพ่อ ซึ่งเปลี่ยนอะไรไม่ได้ส่วนเรื่องที่ซาร่ามีลูกอีกคนถือเป็นอีกสาเหตุไหมอันนี้ขอไม่ตอบแทนเขา อนาคตมันเรื่องของเขา"
"ตลอดหกปีที่เราดูแลลูกสุดท้ายผลมาเป็นแบบนี้เราเครียดถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าเลยไหม คือผมคิดว่าการเถียงกันมีแต่พังกับพัง ผมรู้ว่าใครเป็นยังไง และคิดว่าการเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งตอบโต้ยิ่งไม่จบ และผลเสียมันตกกับลูกถูกไหมครับ เรามาต่อสู้กันแล้วได้อะไร ด่ามาที่ผมผมไม่ว่า แต่ด่ามาถึงครอบครัวผม (ร้องไห้) มาว่าพ่อแม่พี่น้องผม แต่ทุกคนก็อดทน และผมก็ขอโทษครอบครัวผมที่ลากเขาเข้ามาในเรื่องนี้จากความผิดพลาดของตัวเอง ผิดพลาดก็แก้ไข เรียนรู้ ใครจะด่ามาด่าที่ผมเพียงคนเดียว ขอแค่นี้"
"อนาคตถ้าลูกเปิดมาดู อยากบอกลูกว่ามันเป็นเรื่องปกติ แดดดี๊เป็นดาราหลีกเลี่ยงไม่ได้ อยากให้รู้ว่าพ่อแม่รักลูกอยู่แล้ว อันนี้เป็นการแก้ปัญหาของผู้ใหญ่ ไม่ต้องน้อยใจ ไม่ต้องคิดว่าทำไมครอบครัวเราถึงเป็นแบบนี้ อยากให้รู้ว่าจนตายพ่อก็รัก ถ้าวันหนึ่งพ่อไม่ได้อยู่กับลูก ที่ตรงนี้ก็เป็นของลูกเสมอ"
"ที่เขาท้าให้เจอก็ได้ครับ มาไกล่เกลี่ยกัน ผมอยากเคลียร์หลังบ้าน ไม่อยากออกมาตรงหน้าสื่อ เรื่องนี้ให้ตอบอย่างไรก็ได้ขอให้เป็นผลดีต่อลูก และเรื่องค่าใช้จ่ายก็ต้องช่วยกันประหยัด เด็กคนนึงใช้ไม่ถึงหรอกครับ ผมยังใช้เดือนละหมื่นห้าเลยครับ ผมไม่รู้สึกแค้นอะไรเขาเลย อยากให้จบแค่นั้น ก็มีอะไรก็คุยกันหลังบ้านครับ ผมอยากรู้ว่าลูกเรียนที่ไหนครับ"