อธิบดีกรมควบคุมโรคแจงเด็กเมียนมาติดโควิด-19

2020-09-16 10:17:57

อธิบดีกรมควบคุมโรคแจงเด็กเมียนมาติดโควิด-19

Advertisement

อธิบดีกรมควบคุมโรคแจงกรณีเด็กชาวเมียนมาติดเชื้อโควิด-19  ไม่พบเดินทางผ่านช่องทางปกติ สันนิษฐานใช้ช่องทางธรรมชาติ หรือช่องทางอื่นที่ไม่สามารถตรวจสอบได้  ยันมาตรการไทยเข้มงวด

จากกรณีประเทศเมียนมาอ้างพบเด็กชาวเมียนมาอายุ 2 ขวบติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากประเทศไทย เป็นเหตุให้นายอำเภอเมียวดีประกาศเคอร์ฟิว พร้อมแถลงการณ์กักตัวเด็กที่ป่วยพร้อมมารดาและพี่สาว โดยได้นำส่งไปยัง จ.ผาอ่าง เพื่อรอดูอาการนั้น

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าเด็กอายุ 2 ขวบชาวเมียนมาได้เดินทางออกจากประเทศไทยพร้อมมารดาในวันที่ 4 ก.ย.  2563 และต่อมามีการรายงานข่าวการตรวจพบการติดเชื้อของเด็กคนดังกล่าวในวันที่ 13 ก.ย. 2563 จนเป็นเหตุให้นายอำเภอเมียวดีประกาศเคอร์ฟิวในเวลาต่อมา 14 ก.ย. 2563 นั้น กรมควบคุมโรค ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทั้งจากช่องทางการประสานข้อมูลผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulation) ช่องทางการทูต ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) และข้อมูลจากช่องทางเข้าออกระหว่างพรมแดนระหว่างประเทศ  โดยในเบื้องต้น จากการตรวจสอบผู้เดินทางผ่านช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ อ.แม่สอด-เมียวดี ไม่พบว่ามีรายงานการผ่านเข้าออกประเทศไทยของเด็กชาวเมียนมา และมารดาดังกล่าวในวันที่ 4 ก.ย. 2563 ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการเดินทางออกไปโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ หรือช่องทางอื่นที่ไม่สามารถตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่มากกว่า 50 ช่องทาง และยากต่อการควบคุมการเข้าออก

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พระราชทาน ออกค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 8-9 ก.ย.  2563 รวม 2 วันตรวจทั้งคนไทยและต่างด้าว จำนวน 2,635 ราย จำแนกเป็น รร.อิสลามศึกษา 1,041 คน เป็นต่างด้าว(มุสลิม) 660 คน คนไทย 381 คน, รร.วังตะเคียน 713 คน เป็นชาวเมียนมา 284 คน คนไทย 429 คน, อบต.แม่กาษา 558 คน เป็นชาวเมียนมา 47 คน คนไทย 511 คน และเรือนจำแม่สอด 323 คน เป็นต่างชาติ 137 คน คนไทย 186 คน ผลไม่พบการติดเชื้อแม้แต่รายเดียว  กรมควบคุมโรค ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งการคัดกรองผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ เฝ้าระวังในกลุ่มประชากรเสี่ยง รวมถึงมีการสอบสวนติดตามผู้สัมผัสให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังต้องทำการค้นหาข้อมูล โดยการประสานงานทั้งในและระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อมูลแหล่งที่อยู่อาศัยของเด็กและครอบครัว เพื่อค้นหาผู้สัมผัส ทำการตรวจหาผู้ติดเชื้อ และดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ของประเทศเมียนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง  ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ที่เข้มงวดของประเทศไทย รวมถึงการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้าน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422