เฮอริเคนกำลังแรง “แซลลี” เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งสหรัฐแล้ว คาดเข้าถล่มรัฐลุยเซียนา, แอละแบมา, ฟลอริดาและมิสซิสซิปปี อย่างช้าเช้าวันพุธนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ และคลื่นสูงซัดฝั่ง
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอ็นเอชซี (NHC) แถลงว่า เฮอริเคน “แซลลี” เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งสหรัฐแล้วเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ของรัฐแอละแบมา เผชิญกับกระแสลมแรงและฝนตกหนักแล้วในวันอังคาร จากอิทธิพลของเฮอริเคน “แซลลี” ขณะที่เคลื่อนตัวอยู่ในอ่าวเม็กซิโก มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งสหรัฐอย่างช้า ๆ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ และฝนตกหนักยาวนานวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงกว่า 2 ฟุต หรือ 61 เซนติเมตรในหลายพื้นที่ ผู้ว่าการรัฐ 4 รัฐ เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกห่างจากพื้นที่ชายฝั่ง
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ หรือเอ็นเอชซี (NHC) ระบุว่า “แซลลี” อาจเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งแอละแบมา, ฟลอริดา, ลุยเซียนาและมิสซิสซิปปี ในคืนวันอังคารนี้ หรือไม่ก็เช้าวันพุธ ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และสตอร์ม เซิร์จ หรือคลื่นสูงซัดฝั่ง สูง 7 ฟุต หรือ 2 เมตรในหลายพื้นที่ ทำให้ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เฮอริเคน “ฮาร์วี” พัดถล่มในปี 2560 ทำให้เกิดฝนตกหนักนานหลายวันในพื้นที่เมืองฮิวสตัน สร้างความเสียหายครั้งใหญ่
ทั้งนี้ เฮอริเคน “แซลลี” เป็นพายุกำลังแรงลูกที่ 2 ในรอบไม่ถึงหนึ่งเดือนที่พัดเข้าถล่มภูมิภาคนี้ ซึ่งจะเคลื่อนตัวด้วยกำลังลมไม่ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในเวลา 13.00 น.ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 01.00 น.ของเช้ามืดวันพุธตามเวลาในไทย ตอนนี้เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทางตะวันออกประมาณ 95 กิโลเมตร และเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ด้วยความเร็วลม ประมาณ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถนนหลายสายบริเวณชายฝั่งในเมืองปาสกากูลา รัฐมิสซิสซิปปี ถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันอังคาร และสายไฟฟ้าขาด บ้านเรือนประชาชนเกือบ 11,000 หลัง เสี่ยงถูกถล่มด้วยคลื่นสูงซัดชายฝั่งในหลายเมืองขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งในแอละแบมาและมิสซิสซิปปี ซึ่งทั้งกระแสลมแรงและกลุ่มฝนเริ่มมาถึงชายฝั่งแล้วในวันอังคาร
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐแอละแบมา, มิสซิสซิปปี และลุยเซียนา ทั้งท่าเรือ, โรงเรียนและห้างร้านธุรกิจ บริเวณชายฝั่งปิดให้บริการ เฮอริเคนลูกนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักระหว่าง 10 และ 20 นิ้วบริเวณชายฝั่ง ซึ่งในบางพื้นที่อาจสูงถึง 30 นิ้ว บรรดาบริกษัทพลังงาน และโรงกลั่นน้ำมัน ก็หยุดงาน ถอนพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซขึ้นชายฝั่ง การผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งมากกว่า 1 ใน 4 ของสหรัฐปิดทั้งหมด