ทีมนักวิจัยนานาชาติกว่า 100 คน ออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐ จากเมืองทางใต้ของนิวซีแลนด์ ไปยังสถานีวิจัยทวีปแอนตาร์กติกา รอบขั้วโลกใต้ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดสุดขีดด้านสาธารณสุข เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีการนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 ติดตัวไปด้วย
ทวีปแอนตาร์กติกา เป็นเพียงภูมิภาคเดียวในโลก ที่ไวรัสโควิด-19 ยังเข้าไม่ถึง และมีความพยายามทั่วโลก ที่จะร่วมกันป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ดินแดน โดยนักวิจัยและคนงาน ที่ปฏิบัติภารกิจทดลองทางวิทยาศาสตร์ อยู่ตามสถานีต่างๆ ทั่วขั้วโลกใต้
เครื่องบินขนส่งลำเลียง โบอิ้ง ซี-7 โกลบมาสเตอร์ ของกองทัพอากาศสหรัฐ นำพานักวิจัยและคนงานนานาชาติ 106 คน ออกเดินทางจากสนามบินเมืองไครสต์เชิร์ช บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ไปยังสถานีวิจัยแม็คเมอร์โดของสหรัฐ ริมฝั่งทางใต้ของทวีปแอนตาร์กติกา เมื่อวันจันทร์ โดยนักวิจัยชุดนี้ ซึ่งประกอบด้วยชาวอเมริกัน รัสเซีย จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะปฏิบัติภารกิจทดลองตลอดช่วงฤดูร้อนที่จะถึง ผลัดเปลี่ยนทีมที่อยู่ตลอดช่วงฤดูหนาว ซึ่งทั่วโลกเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายโทนี เกอร์แมน ผู้แทนสถานีวิจัยแอนตาร์ติกาของสหรัฐ เผยว่า ทีมนักวิจัยและคนงานชุดใหม่ ต้องผ่านการกักตัวเบื้องต้นเป็นเวลา 4 วัน ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ต่อด้วยอีก 5 สัปดาห์ที่นิวซีแลนด์ ซึ่งตลอดช่วงเวลานี้จะมีการตรวจคัดกรองเชื้อโรคอย่างเข้มงวดเป็นประจำ และเมื่อเดินทางถึงสถานีวิจัยแม็คเมอร์โด จะเข้าสู่ “รหัสสีเหลือง” ซึ่งหมายถึงทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน อีก 2 สัปดาห์
และเพื่อความมั่นใจ ในการทำให้ทวีปแอนตาร์กติกา ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้นไปอีก ทุกประเทศที่มีส่วนร่วมในโครงการวิจัยที่สถานีแม็คเมอร์โด ตกลงที่จะลดจำนวนนักวิจัยและคนงาน ที่จะส่งไปสถานีในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เหลือรวมกันประมาณ 450 คน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนปกติ