ทรัมป์ปะทะคารม จนท.รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่เชื่อโลกร้อน ทำไฟป่ารุนแรง

2020-09-15 11:40:38

ทรัมป์ปะทะคารม จนท.รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่เชื่อโลกร้อน ทำไฟป่ารุนแรง

Advertisement


ไฟป่าที่ลุกลามทั่วรัฐออริกอน, แคลิฟอร์เนียและวอชิงตัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 35 คน และเผาผลาญอาคารบ้านเรือนไปหลายร้อยหลัง และเมืองขนาดเล็กอีกมากกว่า 10 เมืองถูกไฟเผาวอดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งไฟไหม้ลามกินพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 12 ล้านไร่ ใน 3 รัฐ โดยในรัฐออริกอน สำนักงานป้องกันภัยฉุกเฉินของรัฐ แถลงว่า ยังมีผู้สูญหายอยู่อีก 22 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางรัฐต้องส่งทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในชุมชนและทหารอีก 1,000 นายจะอยู่ในพื้นที่จนถึงสุดสัปดาห์

นางเคท บราวน์ ผู้ว่าการรัฐออริกอน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า รัฐของเราถูกผลักดันเข้าสู่ขีดจำกัด มันยากสำหรับพวกเราทุกคนที่จะประเมินความเสียหายที่เกิดจากไฟป่าเหล่านี้ ที่สร้างความเจ็บปวดและทุกข์ยากให้กับชาวออริกอนจำนวนมาก ในช่วงไม่กี่วันมานี้



อย่างไรก็ตาม ไฟป่าที่ลุกลามในรัฐภาคตะวันตกของสหรัฐ ได้แปรเปลี่ยนเป็นปัญหาการเลือกตั้ง ดับนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ที่เรียกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันว่าเป็น “นักวางเพลิงสภาพภูมิอากาศ” เมื่อวันจันทร์ กรณีที่เขาไม่ยอมรับว่าภาวะโลกร้อนมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงมากขึ้น ขณะที่ทรัมป์ กล่าวว่า การบริหารจัดการป่าไม้ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมไฟป่า

ทรัมป์ ซึ่งมีคะแนนนิยมตามหลังไบเดนในผลการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน พบหารือกับพนักงานดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ระหว่างเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังพรรคเดโมแครตประณามประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ว่ายังปิดปากเงียบเกี่ยวกับไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ



ทรัมป์ ไม่ได้แสดงความวิตกทุกข์ร้อนเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน และไม่สนใจข้อเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ที่เตือนว่า “อย่าเพิกเฉยต่อคำเตือนทางวิทยาศาสตร์” เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ระหว่างเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่กำลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ โดยบอกเจ้าหน้าที่ว่า สภาพอากาศเริ่มเย็นลงแล้ว คอยดู เขาไม่คิดว่า วิทยาศาสตร์รู้ตามความจริง

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ อ้างถึงภาวะโลกร้อน “เป็นเรื่องแหกตา” และในปี 2560 เขาก็ถอนสหรัฐออกจากความตกลงปารีส ที่กำหนดกรอบให้นานาชาติช่วยกันแก้ปัญหาอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ขณะที่นายไบเดน กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก เป็นหนึ่งในวิกฤตสำคัญที่กำลังเล่นงานสหรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาที่เขาให้ความสำคัญในการแก้ไขด้วย

ทั้งนี้ ไฟป่าหลายร้อยจุดในแคลิฟอร์เนีย, ออริกอน และวอชิงตัน เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วเกือบ 12.5 ล้านไร่ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 รายตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทรัมป์ ได้ประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปวิกฤตไฟป่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ และได้โต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ว่า ภาวะโลกร้อนหรือการบริหารจัดการป่าไม้ที่ย่ำแย่ เป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าครั้งเลวร้ายในหลายรัฐภาคตะวันตกของประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำที่ยังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ตำหนิวิกฤตไฟป่าที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากการบริหารจัดการป่าไม้ได้อย่างย่ำแย่ของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ นายแกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ยอมรับว่า รัฐของเขาไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการบริหารจัดการป่าไม้ แต่ก็บอกว่า ปัญหาโลกร้อนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงขึ้น พร้อมเตือนสติทรัมป์ด้วยว่า ป่าไม้ 57 เปอร์เซ็นต์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลกลาง ไม่ใช่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐท้องถิ่น