"นิกกี้ ณฉัตร" รับเคยติดพนันบอล จนเกือบเสียศูนย์

2020-09-15 09:55:19

"นิกกี้ ณฉัตร" รับเคยติดพนันบอล จนเกือบเสียศูนย์

Advertisement


เป็นคนชัดเจนทุกเรื่องยืดอกเปิดใจอย่างหมดทุกอย่างสำหรับพิธีกรหนุ่ม "นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์" ที่ล่าสุดออมาเปิดใจถึงเรื่องราวในอดีตในรายการ Club Friday Show  ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบตรงแบบหมดเปลือกไม่ว่าจะเรื่องความรัก ทั้งเรื่องที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดอย่างยิ่งใหญ่ในชีวิต คือทำให้"คุณแม่เสาวลักษณ์" คุณแม่ของตัวเองเสียใจเหตุเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พร้อมทั้งยืนยันความไม่เจ้าชู้ และยอมรับว่าช่วงหนึ่งของชีวิตเคยติดพนันบอลอย่างหนักจนต้องขายของใช้หนี้



นิกกี้ : ทุกแมตช์ครับ ติดบอลตั้งแต่เด็กๆเลย เล่นการพนันบอล ผมต้องขายมือถือ ตั้งแต่มัธยม เพราะเราเป็นคนชอบลุ้นครับ ผมเสียเป็นงวดๆแต่ผมเล่นตลอดเล่นทุกเวลาครับ รถติดผมไม่รู้ผมทำอะไรผมแทงบอลล่ะ เสียเงินหมื่นไปล่ะ มันเสียบุคลิกมากเพราะตาเราจะระแวงเช็คผลบอลตลอดเวลา แต่ตอนนี้ เลิกแล้วครับ เพิ่งเลิกได้ 2-3 ปีนี้เอง เพิ่งเลิกที่ฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสได้แชมป์โลกไปอันนั้นเพิ่งเลิกเลย จำได้วันนั้นคือ ผมแทงไป 20 กว่าคู่ คือเวลาผมเล่นผมเล่นทุกอย่าง แล้วผมไม่รู้ว่าผมเล่นอะไร คนหน้ามืด สามารถกดทุกอย่างเท่าที่กดได้ เพราะเรามีเครดิตครับ เพราะเขาเห็นว่าเราเป็นดาราเขาเลยให้เครดิตเรา 20 กว่าคู่ ผมเสียหมดทุกคู่ ผมก็เสียใจร้องไห้ให้กับความโง่ของตัวเอง ผมก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง แล้วก็สาบานกับตัวเองว่า ผม นิกกี้ ณฉัตร วันนี้ ผมเสียใจมากที่เล่นการพนัน ถ้าวันนี้ ถ้าผมเล่นการพนันอีกแม้ครั้งเดียวขอให้ชีวิตผมมีอันเป็นไป หรือ ว่าขอให้ผมตาย แต่ถ้าหากผมเลิกเล่นการพนันได้ ขอให้ชีวิตผมมีความสุขขอให้มีงานเยอะๆ หลังจากนั้นมาผมไม่กล้าที่จะเล่นการพนันเลย นั่นคือวันที่ผมเลิกเลยครับ ที่ผมเลิกเพราะผมทุเรศตัวเอง ไม่ใช่เพราะผมหมดตัวนะครับ แต่เพราะผมทุเรศตัวเองที่เสียบอลแล้วต้องเอารองเท้าไปขาย มันทุเรศตัวเองมาก



หลังจากวันนั้นมาที่ผมเลิกเล่นชีวิตของผมดีขึ้นมากๆจริงๆครับ ที่เลิกได้เพราะเราคิดถึงคุณแม่ด้วยครับ เพราะผมเสียกี่บาท ผมก็บอกกันคุณแม่ คุณแม่เขาก็มาเขียนคำเตือนไว้ที่หัวเตียงผม ว่าลูกอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาทนะ เพราะเราเคยใช้ชีวิตอย่างลำบากคือ แม่ เขียนติดไว้ทั่วห้องผมเลยเวลาที่เราคิดจะทำอะไรไม่ดีเราก็จะอ่านคำเตือนแม่

ขนาดมีแม่เป็นแรงบันดาลใจทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็มีวันหนึ่งที่ทำให้แม่เสียใจ ?

นิกกี้ : จริงครับ ผมทำให้แม่เสียใจ มาเยอะมากที่ผมจำได้แบบฝังใจที่ทำให้แม่เสียใจมากๆจนอยากย้อนเวลากลับไปในสิ่งที่ทำ คือ วันนั้นผมนั่งอยู่ในรถกับแม่สองคน แล้วแม่เขาเป็นคนชอบบ่นแบบจุกจิก แล้วผมเป็นเด็กที่สมาธิสั้น ผมก็บอกแม่ว่าแม่เลิกบ่น แม่ก็บ่นต่อ ผมก็บอกแม่เลิกบ่น แม่ก็บ่นต่อผมก็เหมือนคนสติหลุดเลย ผมก็ทีบๆกระจกรถที่เป็นบานหน้าคนขับผมทีบจนกระจกหน้าร้าวไปทั้งคัน แม่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรสักคำเลย เขาด่าเรายังดีกว่าเนอะ ดีกว่าเขาไม่พูดอะไรด้วย ตอนนั้นเราบ้านจนด้วยแล้วเขาก็ขับรถพาเราไปส่งเราเรียนตีกอล์ฟ แล้วเขาก็เอารถไปเปลี่ยนกระจก เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้สึกเสียใจมากที่ทำลงไป และอยากจะขอโทษแม่มากๆครับในการกระทำครั้งนั้น





เป็นคู่คุณลูกคุณแม่ที่สนิทกันมาก นิกกี้คุยกับคุณแม่ทุกเรื่องแม้แต่เรื่องของสาวๆที่เข้ามาในชีวิต ? 

คุณแม่เสาวลักษณ์ : เขาบอกแม่หมดทุกคนเลยค่ะ เขาเล่าหมดว่าคุยกับใครคบกับใคร

คุณแม่คิดว่า นิกกี้ เจ้าชู้ไหม ?



คุณแม่เสาวลักษณ์ : ไม่นะคะ ในความคิดของแม่แม่คิดว่าเขาไม่ได้เจ้าชู้ คือ ถ้าเขาเจ่าชู้เขาต้องคบซ้อน แต่ที่เราเห็นคือ เขาคบใครเขาคบทีละคน

เวลาที่นิกกี้มีข่าวต่างๆเกี่ยวกับผู้หญิง คุณแม่หันไปเตือน หรือให้กำลังใจอะไรนิกกี้บ้างไหม ?

คุณแม่เสาวลักษณ์ : ไม่เนอะ

นิกกี้ : คือ แม่เขาจะพูดตลอดเลยครับ ว่าลูกแม่ไม่ได้ฆ่าคน แต่คนเป็นแม่เขาก็จะรักลูกมากกว่าคนอื่น

คุณแม่เสาวลักษณ์ : ไม่ใช่คือ บางทีเราอ่าน เราเครียด เรานอนไม่หลับ แต่เรารู้อยู่ว่าลุกเราเป็นยังไง เราเลยเลือกที่จะไม่อ่าน เพราะถ้าเราอ่านแล้วเราไปอินกับตรงข่าวมากๆเราก็เป็นทุกข์

กลัวไหมกับข่าวต่างๆที่ออกมาจะกระทบเรา คนเห็นข่าวแล้วเขาจะไม่จ้างเรา?



นิกกี้ : เอาความจริงเลยนะครับ ผมไม่เคยกลัวเลยครับ เพราะผมคิดว่าที่ผมได้มาถึงทุกวันนี้ ผมเกินฝันในชีวิตของผมแล้วครับ เพราะตอนเด็กๆผมลำบากมาก ผมฝันความผมแค่มีเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท ผมก็โอเคแล้ว เพราะผมเกเร ไม่เรียนหนังสือ แล้วเราจะมีอนาคตที่ดีได้ยังไง

คุณแม่เสาวลักษณ์ : แต่แม่กลัวนะ กลัวกระทบต่องานเขากลัวเขาเครียด ไม่มีความสุข จะทำงานไม่เต็มที่เพราะตรงนี้มันทำลายสติสัมปชัญญะเขาอย่างนั้นมากกว่า

นิกกี้ : สำหรับสิ่งที่ผมได้มาเกินฝันนี้ ผมไม่ได้คิดว่าต้องรักษาอย่างดีที่สุด สำหรับผม ผมคิดว่าใครที่ชอบผมผมขอบคุณมากๆนะครับ แต่ถ้าเกิดเขาไม่ชอบผม ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะไปทำให้เขาชอบผมยังไง เหมือนงานงานนี้ไม่อยากได้ผม ผมจะอยากได้งานทำไม แต่ถ้างานไหนที่อยากได้ผมทำงาน ผมก็ให้เกียรติเขาเพราะเขาให้เกียรติเรา ผมคิดอย่างนั้น ผมคิดแค่นั้น





คุณแม่มีสเปกลูกสะใภ้ไหม อยากได้ผู้หญิงแบบไหน ?

คุณแม่เสาวลักษณ์ : ชอบผู้หญิงที่เป็นคนดี สะอาดเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องรวยมหาศาล และก็ให้เขารักนิกกี้แค่นี้ค่ะ เขาก็มีพามาหาเราทุกคนที่เขาจีบ เพื่อให้เราดูก่อน

คุณแม่เป็นห่วงอะไรลูกชายคนนี้บ้าง ?

คุณแม่เสาวลักษณ์ : ห่วงเรื่องการใช้จ่ายเงินแค่นั้นเลยค่ะ เขาอยากซื้ออะไรเขาก็ซื้อ เราก็ช่วยวางแผนการใช้เงิน แบบอย่างที่เขาอยากซื้อรถเขาก็จะอ้อนเราอยู่อย่างนั้น

นิกกี้ : ไม่ชอบทะเลาะกับแม่ครับ ไปทำงานแล้วเราไม่มีสมาธิ ทำงานไม่ได้ ถามว่าผมห่วงอะไรตัวเองบ้าง ผมห่วงหลายอย่างนะครับ เพราะผมทำงานเยอะ ใช้เงินเยอะมาก แบบไม่สนเลย ใช้ชีวิตสุดมากเต็มที่กับทุกอย่าง ก็เลยห่วงตัวเอง เพราะผมคิดว่าเกิดมาจะตายก็ตาย เลยใช้แบบเต็มเหนี่ยวแบบไม่เชฟโซนเลย