องค์การอนามัยโลก หรือ WHO บันทึกสถิติใหม่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 พุ่งวันเดียวใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 307,930 ราย รวมทั่วโลกขณะนี้ อยู่ที่ 28,996,407 ราย ครึ่งหนึ่งอยู่ในทวีปอเมริกา ขณะที่ ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีกมากกว่า 5,500 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั่วโลก อยู่ที่ 923,883 ราย
ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ในอินเดีย, สหรัฐและบราซิล
ส่วน สถิติสูงสุดในวันก่อนหน้า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อ WHO รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 306,857 ราย
จากสถิติของ WHO อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 94,372 รายเมื่อวันอาทิตย์ ตามด้วยสหรัฐ 45,523 ราย และบราซิล 43,718 ราย ส่วนสหรัฐและอินเดีย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีกมากกว่า 1,000 ราย บราซิล มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 874 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อินเดียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในโลก 4,846,427 ราย รองจากสหรัฐ ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 6,519,979 ราย และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อินเดียมีผู้ติดเชื้อเกือบ 2 ล้านคนในเดือนสิงหาคมเดือนเดียว ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในโลก ตั้งแต่ไวรัสมรณะเริ่มระบาด
อินเดียมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 64,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้น 84 เปอร์เซ็นต์จากเฉลี่ยรายวันในเดือนกรกฎาคม ส่วนผู้เสียชีวิตเกิน 1,000 รายทุกวันตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน
บราซิลทำสถิติมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4 ล้านราย สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ผู้เสียชีวิตสูงสุดในลาติน อเมริกา อยู่ที่ 131,625 ราย ด้านสหรัฐมีผู้ติดเชื้อคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านคน ผู้ติดเชื้อรายวันสูงต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม แต่จากนั้นก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ สหรัฐยังครองสถิติผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก อยู่ที่มากกว่า 194,000 ราย
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคอื่น ๆ หลายประเทศทั่วยุโรป ผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวไวรัสกลับมาระบาดใหม่ หลายประเทศประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ที่มีการระบาดหนักที่สุด และเรียกร้องให้ประชาชนหัวมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing
ประเทศอื่น ๆ ที่ไวรัสกลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง รวมทั้ง เปรู, อิสราเอล, เกาหลีใต้และออสเตรเลีย โดยเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐวิกตอเรีย จับกุมตัวผู้ประท้วงมากกว่า 70 คน ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งพักอยู่ที่บ้าน หรือ stay-at-home มีประชาชนประมาณ 250 คนเข้าร่วมประท้วงในเมลเบิร์น ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากกลุ่มโซเชียล มีเดีย ที่แชร์ข้อมูลทฤษฎีสมควบคิดเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรีย เป็นศูนย์กลางการระบาดในออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อ 75 เปอร์เซ็นต์ และเสียชีวิต 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศ
ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อนบ้านของออสเตรเลีย จะยกเลิกมาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมไวรัส ยกเว้นในเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่สุดของรัฐ ในวันที่ 21 กันยายนนี้ จากการประกาศของนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ในวันจันทร์ โดยนิวซีแลนด์ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการควบคุมไวรัส แต่มาตรการคุมเข้มบังคับใช้ในเมืองโอ๊คแลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน อิสราเอล ก็เริ่มล็อคดาวน์ประเทศครั้งใหม่ เพราะผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อิสราเอลจะบังคับใช้มาตรการคุมเข้มที่เข้มข้นในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ชาวยิว และจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ขณะนี้ อิสราเอลมีผู้ติดเชื้อไวรัสมากกว่า 153,000 ราย และเสียชีวิต 1,108 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์