นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นักธุรกิจมหาเศรษฐ๊ อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ที่เคยใช้เงินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ในการแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถอนตัวออกกลางคัน ล่าสุดประกาศจะอัดฉีดเงินอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,120 ล้านบาท เพื่อช่วยนายโจ ไบเดน ผู้ชนะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการรณรงค์หาเสียง ในเขตรัฐฟลอริดา
การตัดสินใจของบลูมเบิร์กเมื่อวันอาทิตย์ มีขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ 51 วันสุดท้ายของการหาเสียง ก่อนถึงวันลงคะแนน เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 ในวันที่ 3 พ.ย. โดยโพลสำรวจของหลายสำนักบ่งชี้ตรงกันว่า คะแนนนิยมของไบเดนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน คู่แข่งคนสำคัญ ในรัฐฟลอริดา ยังสูสีคู่คี่
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้เปรียบไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทางด้านเงินทุนหาเสียง ในระยะต้น แต่เงินทุนของทรัมป์เริ่มร่อยหรอลง หลังจากพรรครีพับลิกันใช้จ่ายอย่างเสรี ขณะที่เงินทุนของเดโมแครตเพิ่มมากขึ้น ทันทีที่การแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรค ที่สร้างความแตกแยก สิ้นสุดลง
นายเควิน ชีคกี ที่ปรึกษาส่วนตัวของบลุมเบิร์ก กล่าวว่า บลูมเบิร์กมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ และการบรรลุเป้าหมายจะต้องเน้นการทุ่มเงินหาเสียงในรัฐสำคัญ รวมถึงรัฐฟลอริดา และรัฐเพนซิลเวเนีย
ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์และพรรครีพับลิกันสามารถระดมเงินทุนหาเสียงได้ทั้งหมด 210 ล้านดอลลาร์ หรือ 6,553 ล้านบาท ส่วนไบเดนและพรรคเดโมแครตระดมได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 364.4 ล้านดอลลาร์ หรือ 11,375 ล้านบาท.