"ธัญวัจน์" อัดแบบเรียนนำภาพนักร้องสาวมาใช้

2020-09-12 10:20:43

"ธัญวัจน์" อัดแบบเรียนนำภาพนักร้องสาวมาใช้

Advertisement

"ธัญวัจน์" อัดแบบเรียนชั้น ป.5 นำภาพนักร้องสาวมาใช้ ชี้การศึกษาไทยปลูกฝังตีตราจากภาพลักษณ์ภายนอก จี้ ศธ.รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่หนังสือแบบเรียนวิชาสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในแบบฝึกหัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ ของกระทรวงศึกษาธิการ นำภาพนักร้องสาว ขนมจีน กุลมาส สารสาส ศิลปินนักร้อง ใส่เสื้อยืดกระโปรงและทำผมตามแฟชั่น และแบบฝึกหัดนี้ให้เป็นการเขียนอภิปราย โดยเป็นคำถามชี้นำว่า “วัฒนธรรมนี้เหมาะสมกับคนไทยหรือไม่” โดยมีคำตอบชี้นำในเล่มเฉลยสำหรับครูว่า “ไม่เหมาะสม เพราะไม่เรียบร้อย” สิ่งนี้ไม่ใช่การไม่พัฒนาของการศึกษาไทย การศึกษาไทยปลูกฝังการตัดสินผู้อื่น เหยียดบุคคลจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น น่าสลดใจที่ศตวรรษที่21 ประเทศไทยเดินไปไม่ทันโลกที่เปลี่ยนไปผู้ออกแบบเรียนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นนอกกะลาใบนี้ เหตุใดกระทรวงศึกษาธิการจึงอนุมัติให้แบบเรียนนี้ออกมา ซึ่งชัดเจนแล้วว่าวิสัยทัศน์ของผู้บริหารติดลบ มาถึงตรงนี้ อย่าแปลกใจหรือสงสัยว่าเหตุใดนักเรียนทั่วประเทศออกมาชู3นิ้ว การดีเบตของนักเรียนกับ รมว.ศึกษาธิการถึงแตกต่างเหมือนอยู่คนละโลก

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า การศึกษาคือสิ่งที่ประเทศที่พัฒนาให้ความสำคัญเพราะการศึกษาคือรากญานของบุคคล่กรที่มีคุณภาพแต่ประเทศไทยยังมีแบบเรียนที่ล้าหลัง ชี้นำความคิดปลูกฝังวัฒนธรรมผิดๆแบบนี้อยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่างเพราะการศึกษาไทยการสอนให้เด็กไทยไม่เคารพผู้อื่น นำพาสู่การไม่เคารพตัวเอง ประเทศไทยต้องการการศึกษาที่เปิดกว้างที่ทันโลก เราต้องการการเรียนการสอนที่ให้รู้จักการเคารพตนเองและผู้อื่น เราอยู่ในสังคมที่วัน ๆ เอาแต่จ้องจับผิดผู้อื่น แทนที่จะทำหน้าที่ตนเองให้สร้างสรรค์ เราอยู่ในสังคมที่ใครแตกต่างก็ถูกมองว่าผิดแปลก สร้างความเป็นพวกพ้องไม่กล้าแตกต่างเพราะสังคมจะมองว่าแตกแถว แล้วเราจะพัฒนาสังคมจองเราให้ยอมรับความหลากหลายได้อย่างไร ทั้งนี้อยากเรียกร้องไปยังอยากกระทรวงศึกษาพัฒนาวิชาสังคมดังกล่าว ให้มีการเรียนรู้เข้าใจสังคมและความหลากหลาย และ หยุดการสอนให้เด็กตีตราผู้อื่น เพราะมันการสร้างความเกลียดชังที่นำพาไปสู่การ Bully และร้ายไปถึงการส่งผลต่อจิตใจผู้อื่น หากเรื่องแค่นี้ยังไม่สามารถปรับปรุงได้ตนเห็นว่า รมว.ศึกษาควรพิจารณาตนเอง