ร้องไห้เป็นเผาเต่า "ติ๊ก" นอนระทมจมน้ำตา "ศรราม" ดุมาก ไม่ให้เข้าบ้านไม่ให้เจอลูก !! (มีคลิป)

2020-09-11 16:50:30

ร้องไห้เป็นเผาเต่า "ติ๊ก" นอนระทมจมน้ำตา "ศรราม" ดุมาก ไม่ให้เข้าบ้านไม่ให้เจอลูก !! (มีคลิป)

Advertisement

กราบกรานก็แล้ว อ้อนวอนก็แล้ว "ศรราม" ไม่มีใจอ่อนแม้แต่น้อย "ติ๊ก" ร่ำไห้คิดถึงอยากพบลูก เผยความลับหนี้ก้อนมหึมา สิ้นหวังไม่ขอกลับไปเป็นเมีย  






ปมหนี้สินที่ล้นหัวทำครอบครัวแตกร้าว "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" หรือ "กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ" สุดแสนจะทรมานไม่ได้พบหน้าลูกสาวยอดดวงใจ เปิดใจร้องไห้เป็นเผาเต่ากลางรายการ คุยแซ่บSHOW เผย นั่งนับวันคืน เพราะคิดถึงวีจิ เคยนอนกับลูกทุกคืน ช้ำหนัก ไม่สามารถดูรูปลูกในไอจีได้ พยายามกลับบ้านไปขอเจอลูก แต่ศรรามบ่ายเบี่ยง จึงต้องถอยออกมาเพราะรู้ว่าอดีตสามีเป็นคนยังไง

โดยติ๊กกล่าวต่อว่า "รอจนวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ถูกเลื่อนอีก เดินทางไปหากดกริ่งหน้าบ้านตามมารยาท พี่หนุ่มไม่อยู่ แต่กลับไม่มีคนเปิด จึงกดกริ่งรัวๆ ก็ไม่มีใครลงมา ด้วยความร้อนรนของแม่ ตะโกนเคาะประตู เหมือนคุมตัวเองไม่ได้ สักพักตำรวจมา บอกเจ้าของบ้านโทรตามมา”





"จนวันหนึ่งได้เจอลูกเพราะโทร.บอกพี่เลี้ยงให้นำลูกลงมาหน่อย เขาก็พาลงมา แป๊บเดียว 2 นาที น้องวีจิยิ้ม และได้จับมือลูกเดี๋ยวเดียวเอง พอพี่หนุ่มลงมา เขาบอกให้เราออกไป เดี๋ยวแจ้งตำรวจจับ หนูจึงขอร้อง นั่งคุกเข่า ลูกอยู่ตรงนี้ ขออุ้ม ขอกอด ซึ่งพี่หนุ่มยืนกรานให้ออกไป จึงยอมกลับไปแต่ไม่ใช่เพราะตำรวจ แต่พี่หนุ่มกำลังจะว่ายาม และเอาเรื่องเขาให้ได้"



เมื่อ "ติ๊ก" อยากเผยถึงปมปัญหาจึงพยายามเคลียร์กับ "หนุ่ม ศรราม" และนัดไปคุยกันที่วัด แต่แล้วเมื่อร้อนกับร้อนเจอกันก็ไม่ได้พูดออกมา ทางอดีตสามีเอาแต่พูดใส่ ทางอดีตภรรยาก็ได้แต่ร้องไห้ ตอนนั้นต้องการพูดความจริง เพื่อเป็นของขวัญให้คุณหนุ่ม มันเป็นสิ่งเราสองคนเท่านั้นที่รู้ วันนั้นตั้งใจจะพูด ยอมรับบางอย่างโกหกจริง ตามที่พี่หนุ่มบอก





ส่วนเรื่องที่เป็นสาเหตุต้องออกมาจากบ้าน มาจากเรื่องเงินมัดจำคอนเสิร์ต ซึ่งยอมรับผิดจริง กะจะพูดทุกอย่างตั้งแต่ที่วัด แต่ไม่มีโอกาสจะพูด เพราะชีวิตนี้ไม่มีใครจะดีเท่าพี่หนุ่มแล้ว ส่วนที่บอกพี่หนุ่มให้ 200 บ้าง 500 บ้างนั้น ต้องขอโทษจริงๆ วันนั้นไม่มีสติจะอธิบาย ด้วยความที่ตอนเราเดินเข้ามา เขายังไม่มีงานดังเท่านี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง ตอนนั้นกัดก้อนเกลือกิน ไม่เป็นไร แรกๆ มีน้อยใช้น้อย อดีตสามีเคยวางเงินไว้ให้ 300 บาทบ้างจริงๆ





เราอยู่กันไม่นาน ยังไม่ถึง 2 ปีเลย ช่วงแรกพี่หนุ่มให้อย่างนั้นจริงๆ พอพี่หนุ่มมีงานเยอะ จะมีให้หมื่นหนึ่ง หรือได้เงินเยอะจะให้เยอะ พอมาอยู่บ้านหลังนี้ 6-7 เดือน ได้ 3 หมื่น บางเดือนได้มากกว่า 3 หมื่น หรือมือถือหายบางเดือนพี่หนุ่มก็ซื้อให้อีก เดือนหนึ่งรวมแล้วก็เป็นแสนก็มี



ทั้งนี้ "ติ๊ก" ก็ยังพูดถึงประเด็นเงินทองที่ทำให้หมองใจกัน ว่า "หนี้เก่ายังไม่หมด ก็เอาเงินเดือนไปผ่อน และช่วงโควิด เพื่อนก็รวมตัวมาทวงเงินกัน หนี้สินไม่ได้เกิดจากการพนันทั้งหมด ปีสุดท้าย ขัดสนมาก รถดูคาติ ถูกยึด คอนโดฯ อีก หนูบอกพี่หนุ่มไม่หมด และที่เข้ามาในชีวิตเขาเราไม่ได้คิดเรื่องเงิน ไม่ได้อยากเอาภาระมาให้เขา เพราะพี่หนุ่มไม่ได้อยู่ในช่วงของการรับภาระใหม่จากใคร"





ส่วนหนี้สินที่ยังเหลืออยู่จริงๆ นั้น "ติ๊ก" เผยว่า "คิดไปมา น่าจะประมาณ 2.5-3.5 ล้าน แต่เราไม่ได้จะแก้ที่ตัวเงินอย่างเดียว เราต้องแก้ที่ตัวคนด้วย" 

เมื่อพิธีกรถามเรื่องทองของลูกสาว "ติ๊ก" ยืนยันว่ายังอยู่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเก็บไว้ไหน เพราะคิดว่าเรามีสิทธิจะเก็บของลูกเอาไว้ได้ ส่วนล็อกเก็ตที่มีปัญหากันนั้น ไม่ได้ขาย ถ้าอยากทราบเรื่องจริงให้ไปถามพี่ปรีชาคนที่เป็นต้นเรื่องเอง และเรื่องทองอื่นๆ ของลูกนั้น ยอมรับว่าขายจริง แต่เมื่อ 8 เม.ย.ได้ซื้อทองคืนลูกแล้ว



ในเรื่องของกระแสที่ต่อว่าเราในทางลบว่าเป็นแม่ที่โกหก แม่ที่ไม่ดี... "ติ๊ก" ยอมรับในการกระทำนั้นๆ ที่ "พี่หนุ่ม ศรราม" เคยบอกจริงๆ ใครจะว่าจะด่ายอมรับได้ทั้งหมด เพราะเป็นสิ่งที่ได้ทำกับคนที่เขาดีกับเราขนาดนี้ แต่ไม่สามารถบอกสาเหตุทั้งหมดได้

เมื่อถามว่าเคยตันมากไม่อยากอยู่หรือไม่ "ติ๊ก" ร้องไห้ยิ้มทั้งน้ำตา บอกว่าตอนออกมาจากบ้านพี่หนุ่ม ไม่มีบ้านแล้ว ไม่มีลูก ตื่นมาไม่เจอใครเลย ตอนนี้อยู่คนเดียว กักตัวเองในห้องสี่เหลี่ยม สภาพชุดเดียว ตอนออกมา พี่เขาให้หนูเก็บของ แต่หนูคิดว่าไม่น่าร้ายแรงขนาดนั้น



“หนูไม่ได้อยากต่อต้าน แต่อยากกลับไปอยู่ตรงนั้น คือ "วีจิ" ด้วยความเป็นเมียไม่ได้แล้ว ไม่เป็นไร เคารพการตัดสินใจของพี่หนุ่ม แต่ด้วยความเป็นแม่ ขอให้ได้เป็นแม่ของลูกเถอะค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ทางติ๊กได้ลิสต์ข้อปฏิบัติมา 5 ข้อที่จะไปถึงเป้าหมายคือได้เจอลูก 1. ให้พูดความจริง ให้ยอมรับความจริง 2. แก้ไขปรับปรุงในสิ่งผิด กลับตัวเป็นคนใหม่ 3. ไม่อยากให้ผ่าแผลเดิมซ้ำๆ ด้วยตัวเอง เพราะพี่หนุ่มห่วงเรื่องสุขภาพจิต คือมานั่งเล่าเรื่องที่เจ็บปวด เรื่องที่ไม่ดีของตัวเองอีก หนูมาออกรายการ กังวล ร้องไห้นอนไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ไม่รู้จะพูดอะไรได้บ้าง กลัวพี่หนุ่มจะโกรธ กลัวพี่หนุ่มจะไม่รัก กลัวเขาไม่ให้อภัย เรื่องที่ 4. คือเรื่องการพนัน หลีกไกลจากสิ่งไม่ดี



“ถ้าหนูจะยอมรับผิด ต้องออกมาจากใจ พี่หนุ่มน่าจะรู้ ถ้าอยากให้ขอโทษ ถ้าหนูไม่รู้สึก จะไม่พูด ที่หนูออกมาพูดเพราะก่อนหน้านี้พูดไปก็ไม่เข้าถึงหู แต่ถ้าใช้สื่อพี่หนุ่มจะจับจ้องทุกคำพูด ถึงมาออกรายการนี้ แต่สิ่งที่หนูกำลังจะเปลี่ยนนั้น พี่หนุ่มอย่าใจร้อน ยังทำตอนนี้เลยไม่ได้ ปัญหาหนูต้องแก้คนเดียว ไม่มีค่าเลี้ยงดูจากพี่หนุ่มแล้ว หนูไม่เรียกร้อง หนูจะยืนด้วยตัวเอง เคลียร์หนี้สินของหนูได้ด้วย”



พีคสุดๆ เมื่อชาวเน็ตยิงคำถามแทนพิธีกรว่า สรุปแล้วทองของลูกอยู่ที่ไหน เพราะหลายคนบอกว่าติ๊กกำลังโกหก โดยติ๊กยอมรับหน้าชื่นว่า ทองอยู่ที่โรงรับจำนำ ในตอนแรก แต่ตอนนี้ได้ไถ่ออกมาหมดแล้ว และซ่อนเอาไว้ในที่ที่หนึ่ง 

สุดท้ายพิธีกรได้ถามว่าอยากฝากอะไรถึง "พี่หนุ่ม" บ้าง "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษพร้อมปล่อยโฮ และกล่าวว่า บทเรียนนี้หนูจะไม่กลับไปทำแบบนี้อีก เพราะทำให้หนูไม่ได้เจอลูกอีกเลย ขอให้เห็นใจ หนูขอเจอลูกครั้งเดียวต่อเดือนก็ได้



ในอนาคตน้องวีจิอาจได้มาดูรายการนี้ อยากพูดอะไรกับลูกสาว ในช่วงนี้ ติ๊กร้องไห้หนักมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมพูดว่า แม่อาจจะเป็นแม่ที่ไม่ดีในสายตา พ่อของวีจิ ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่แม่ไม่ตั้งใจ ไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่ามีแม่ที่ผิดพลาดจากการเล่นพนัน เรื่องนี้น่าจะคุยในครอบครัวได้ แต่ในใจลึกๆ ก็รู้ว่าไม่มีโอกาสกลับเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ทุกวันนี้จะพยายามทำดีเพื่อให้พี่หนุ่มไม่โกรธ กลับมารักเหมือนเดิม ตอนนี้ไม่มีหวังที่ครอบครัวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว