โฆษกรัฐบาลแจงรอทุกอย่างพร้อมเดินหน้า "ภูเก็ตโมเดล"ระบุหากในพื้นที่เกิดความกังวลต้องมาดูรายละเอียดปรับแก้บางส่วนเพื่อคลายความกังวล
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องเศรษฐกิจตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามพูดคุยกับผู้ประกอบการธุรกิจ จะเห็นว่า 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการเชิญนักธุรกิจไปพูดคุยที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งสายการบิน อสังหาริมทรัพย์ อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ ค้าปลีก เพื่อรับฟังปัญหา จากนั้นจะนำมาประมวลว่าสิ่งที่ต้องดำเนินการในมาตรการต่อไปที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจมีอะไร ทั้งนี้นายกฯได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม อย่างเรื่องกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ นายกฯจะมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปดู ทั้งนี้มาตรการ หรือนโยบายทั้งหมด ในทางปฏิบัติอาจมีประเด็นปัญหาว่าไม่ได้รับฟังผู้ประกอบการ คนในพื้นที่ เช่น การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจทำให้คนในพิื้นที่กังวล หรือผู้ประกอบการอาจมองว่าควรทำทีละขั้นตอน ดังนั้นนายกฯจะฟังความรอบด้าน เพื่อมาประมวลสิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
นายอนุชา กล่าวต่อว่า สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ การจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว คงไม่เหมือนในอดีต คือการส่งออก การทองเที่ยว ต้องคิดโปรเจ็กต์อื่น ๆเช่น แลนด์บริดจ์ การเชื่อมโยงอ่าวไทยกับอันดามัน จะทำอย่างไรเหมือนกับอีอีซี ที่ไปดำเนินการและในวันนี้ทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมา ต่างประเทศก็ยินดีย้ายฐานการผลิต อันนี้อาจจะทำให้การค้าการลงทุนต่างประเทศมั่นใจ แต่ทั้้งหมดต้องขึ้นอยู่กับการเมืองในประเทศด้วย ถ้าการเมืองในประเทศสงบเรียบร้อย มีบรรยากาศการพูดคุยกัน ซึ่งนายกฯก็เปิดโอกาสให้มีการนำเสนอหลายเรื่อง วันที่นายกฯไประยองก็จะมีเด็ก ๆเข้ามา ว่าอย่ากเห็นอนาคตประเทศเป็นอย่างไร มีการพูดคุยเรื่องอนาคตที่จะทำให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส ต้องเดินหน้าไปอย่างไร หรือ แม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีกลไกที่อยู่ในสภาฯอยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านก็สามารถใช้เวทีสภาฯเสนอแนะ วันนี้เข้าใจว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎ พิจารณาเสร็จแล้ว และได้นำเสนอรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าบรรจุวาระก็จะเป็นกลไกในการพูดคุยกัน ทางรัฐบาลก็รับฟังข้อเสนอแนะทั้งหมด
"แน่นอนว่าทุกคนต้องช่วยกันเพราะทราบกันดีกว่าเศรษฐกิจค่อนข้างเปราะบาง การที่จะพึ่งพาต่างชาติไม่ว่าท่องเที่ยว ส่งออกทำได้ยาก ประเทศไทยได้รับการยอมรับ และชื่นชมว่าดำเนินการป้องกันโควิด-19 ได้ดียิ่ง นายกฯก็ใช้โมเดล ศบค. มาใช้กับ ศบศ. ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาได้ เพราะมาตรการทั้้งหมดจะพูดคุยกับนักธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด จะทำให้เกิดความรอบคอบ และทุกคนมั่นใจในความโปร่งใส"นายอนุชา กล่าว
เมื่อถามถึงภูเก็ตโมลเดล นายอนุชา กล่าวว่า ตอนนี้ต้องทำความเข้าใจ เพราะบางส่วนอาจกังวล ถ้าหากเปิดประเทศ ในต่างประเทศมีการระบาดรอบ 2 และรอบ 3 แต่ประเทศไทยควบคุมได้แล้ว คงต้องพูดคุยกันและหาสมดุลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตอนนี้เราทำได้ดี นายกฯก็ให้ความสำคัญมอบงบประมาณ 1,000 ล้านบาทให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติในการทำวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งพูดคุยกับต่างประเทศในการแชร์ข้อมูลกัน ดังนั้นขอให้เกิดความเชื่อมั่น ไม่ว่าระบบสาธารณสุข ระบบเศรษกิจ ตอนนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการและแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ถ้ามีข้อสรุปได้ในส่วนของพื้นที่คิดว่าสามารถทำได้เลย ข้อเสนอในส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า จะเดินหน้าเมื่อไหร่ ถ้าหากยังเกิดความกังวลอาจจะต้องมาดูรายละเอียดว่าต้องปรับแก้ในบางส่วนเพื่อที่จะคลายความกังวล
"ถ้าคนในพื้นที่เห็นชอบด้วยเราก็คิดว่าพร้อมเดินหน้า แต่ถ้าคนในพื้นที่ยังกังวลอยู่เราก็ต้องพยายามพูดคุยเพื่อที่จะให้ทุกอย่างเข้าใจตรงกันว่าเปิดแล้วความกังวลไม่มี อย่าลืมว่า การจะรับนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องของการบริการ ถ้ายังบริการแบบไม่เต็มที่ คิดว่าความคาดหวังของนักท่องเที่ยวที่มาอาจผิดหวัง ดังนั้นต้องให้ทุกอย่างพร้อมแล้วเราจะเดินหน้าต่อ"นายอนุชา กล่าว