ตร.จ่อแจ้ง 3 ข้อหา "หัวโจกประมงพื้นบ้าน" ฮือปิดล้อมกดดัน "ตร.น้ำ" ให้ปล่อย "เรือคราด" ผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. จากกรณี นายอนุชา บินมูซา หรือบังหมัดดำ ที่เคยก่อเหตุนำชาวบ้านล้อมรถเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 โดยอ้างว่าถูกตำรวจเรียกรับเงิน 5 ล้านบาท นำชาวบ้านกว่า 100 คนซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เข้าปิดล้อมเรือตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เพื่อกดดันให้ปล่อยเรือประมงผิดกฎหมายที่ถูกจับกุมบริเวณปากร่องแม่น้ำตาปี พื้นที่ ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงเข้าเจรจาโดยใช้เวลานานนับชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล
ล่าสุด นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจน้ำ และทหารเรือ เข้าเจรจากับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านดังกล่าว เพื่อให้ปล่อยเรือตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่บนเรือ หลังการเจรจร นายอนุชา ซึ่งเป็นตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน เสนอข้อเรียกร้องให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถใช้เครื่องมือคราดเพื่อทำประมงได้ พร้อมให้ย้ายเจ้าหน้าที่ประมงบางคนออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเลือกปฏิบัติ แต่การเจรจานานกว่า 5 ชั่วโมงไม่เป็นผล นายเกียรติศักดิ์ จึงขอพักการเจรจาเพื่อปรึกษาหารือกัน จากนั้นปรากฏว่าแกนนำชาวบ้านตะโกนว่าถูกเจ้าหน้าที่หลอกลวง ขอให้รวมตัวกันปิดปากอ่าวบ้านดอน ทำให้กลุ่มเรือประมงทั้งเกือบ 20 ลำ ต่างเร่งเครื่องยนต์เพื่อออกเรือทางด้านข้างของของเรือตำรวจน้ำ
ด้านเจ้าหน้าที่ เกรงว่าจะถูกกลุ่มเรือชาวประมงล้อมกรอบอีก จึงเร่งเครื่องยนต์ออกเช่นกัน และพบว่าเรือประมงที่ลากจูงอยู่กับเรือของตำรวจน้ำ ถูกมือดีแก้เชือกออก แล้วนำไปผูกไว้กับเรือประมงอีกลำก่อนลากจูงออกไป โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยตำรวจน้ำ ประมง ตำรวจภูธร จะนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในข้อหาร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และนำพาไปซึ่งของกลางทางคดี, ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ และใช้วาจาดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีไตามกฎหมาย