กมธ.ดีอีเอสดูการพัฒนาให้เมืองน่านเป็นเมืองอัจฉริยะ ยกระดับแอพพลิเคชั่นเตือนภัย ท่องเที่ยว "กัลยา"ชมคนน่านแข็งแกร่งรักท้องถิ่น ชูเป็นต้นแบบให้ที่อื่น
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. เที่เทศบาลเมืองน่าน คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานเรื่อง การพัฒนาให้เมืองน่านเป็นเมืองอัจฉริยะ "Smart City" และเมืองสร้างสรรค์ "Creative City"นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ประธานกมธ.ดีอีเอส นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ
น.ส.กัลยา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนคงมีความกังวลว่าหากมีเทคโนโลยีเข้ามาแล้ว ความเป็นอยู่ เอกลักษณ์ของ จ.น่านจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ตนคิดว่าเทคโนโลยีจะเป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาเสริมในเรื่องการใช้ชีวิต แต่วิถีความเป็นอยู่ต่างๆของชาวน่านจะไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่าสิ้นเชิง แต่จะมีเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาเรื่องต่างๆได้ เช่น การแจ้งเตือนภัยพิบัติอย่างกรณีน้ำท่วมหนักที่ผ่านมา หากเรามีเทคโนโลยีในการแจ้งเตือน ก็จะสามารถลดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินได้ เพราะชาวบ้านจะมีการเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที
น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยว น่านเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิต การยกระดับจ.น่าน เป็นสมาร์ทซิตี้ มีความทันสมัย หวังเป็น 1 ใน 100 เมือง การท่องเที่ยระดับโลกได้ เพราะจ.น่านมีทรัพยาการ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีภูมิปัญญาชาวบ้าน และวัฒนธรรมพื้นบ้านที่เก่าแก่ เป็นจุดขายที่ดี แต่การจัดการอย่างเป็นระบบจะทำให้ทุกอย่างอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งตรงนี้ กมธ.มาดูว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น การเดินทาง การท่องเที่ยวผ่านแอฟพิเคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่จะเดินท่องเที่ยวในตัวเมืองได้โดยไม่ต้องมีไกด์ รวมถึงการจัดระเบียบเมืองที่มีการเก็บสายไฟ จัดการถนนได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ในเรื่องการศึกษา ที่เราจะทำ USO NET เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เทียบเท่ากับเด็กในเมือง
"คนน่านมีความเข้มแข็งมาก ทุกคนรักจังหวัดตัวเอง สามารถนำน่านโมเดลไปใช้กับจังหวัดอื่นได้ กระแสรักน่าน มีการปรับธุรกิจต่างๆให้เข้ากับอัตลักษณ์ของจังหวัด ร้านค้าต่างๆต้องปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมือง นี่เป็นสิ่งที่เป็นสมาร์ทซิตี้ ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีจะต้องพัฒนาไปพร้อมๆกับอัตลักษณ์ของพวกเขา ทั้งนี้ในส่วนของการแจ้งเตือนภัยพิบัติ จ.น่านมีระบบเรดาร์ ทำให้มีความแม่นยำ ต่างจากจังหวัดอื่นๆ เช่น ชุมพร ที่ใช้วิทยุชุมชนร่วมกับกรมอุตุนิยิมวิทยา ซึ่งเรดาร์สามารถเตือนภัยได้อย่างแม่นยำลดความเสียหายจำนวนมาก"น.ส.กัลยา กล่าว
น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า ในวันที่ 5 ก.ย. กมธ.ดีอีเอส จะลงพื้นที่ อ.เวียงสา เพื่อมอบถุงยังชีพ 200 ชุด ที่ได้รับมอบจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)