"หมอมนูญ" ชี้โควิดเป็นแล้วเป็นซ้ำได้

2020-09-04 09:52:44

"หมอมนูญ" ชี้โควิดเป็นแล้วเป็นซ้ำได้

Advertisement

"หมอมนูญ" ชี้โรคโควิด 19 เป็นแล้วเป็นซ้ำได้อีก  คนส่วนใหญ่จะสร้างภูมิต้านทาน แต่อาจอยู่ได้ไม่นาน ทำให้มีโอกาสเป็นซ้ำ 

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ รพ.วิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC  ระบุว่า โรคไวรัสโควิด-19 เป็นแล้วเป็นซ้ำได้อีก รายงาน 3 คนแรกเป็นครั้งที่ 2 อาการน้อยกว่าครั้งแรก เพราะร่างกายมีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อครั้งแรก ทำให้มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลย ยกเว้นรายงานล่าสุด ผู้ป่วยชายชาวอเมริกันอายุ 25 ปี ปกติแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว วันที่ 25 มี.ค. มีอาการไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเสีย วันที่ 18 เม.ย. ตรวจรหัสพันธุกรรมพบว่าติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 วันที่ 27 เม.ย. หายเป็นปกติ วันที่ 9 และ 26 พ.ค. ตรวจรหัสพันธุกรรมซ้ำให้ผลเป็นลบ ผู้ป่วยสบายดี หายเป็นปกติ จนกระทั่งวันที่ 31 พ.ค. มีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเสีย เอกซเรย์ปอดปกติ แพทย์ให้กลับบ้าน วันที่ 5 มิ.ย. กลับมา รพ.อีก ด้วยอาการไอ เหนื่อย ปวดกล้ามเนื้อ เอกซเรย์ปอดครั้งนี้พบปอดอักเสบทั้งสองข้าง วัดระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ต้องให้ออกซิเจน ตรวจรหัสพันธุกรรมพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิดครั้งที่ 2 แตกต่างกับครั้งแรก แพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งที่ 2 ห่างจากการติดเชื้อครั้งแรก 48 วัน

นพ.มนูญ  ระบุอีกว่า หลังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนส่วนใหญ่จะสร้างภูมิต้านทาน แต่ภูมิอาจอยู่ได้ไม่นาน ทำให้มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก แต่อาการจะน้อยกว่าครั้งแรก ที่น่าเป็นห่วงผู้ป่วยรายนี้เป็นซ้ำ แต่อาการหนักกว่าเดิม ทำให้สงสัยว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อครั้งแรกอาจส่งเสริมทำให้อาการติดเชื้อครั้งที่ 2 รุนแรง เหมือนกับไข้เลือดออกเป็นครั้งที่ 2 จะหนักกว่าครั้งแรก ทำให้มีความวิตกกังวลว่าการฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 อาจทำให้คนที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรก มีอาการหนักกว่าคนที่ไม่เคยได้วัคซีน เหมือนกับวัคซีนไข้เลือดออกที่ถูกถอนออกจากประเทศฟิลิปปินส์หลังเริ่มใช้ได้ไม่นาน แต่ประเทศไทยยังให้ใช้วัคซีนไข้เลือดออกนี้อยู่

"เชื้อไวรัสโควืด-19 กลายพันธุ์อยู่ตลอด เราต้องรอการศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดระยะที่ 3 ในอาสาสมัครจำนวนหลายหมื่นคนซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน เพื่อพิสูจน์ว่าวัคซีนที่ผลิตขึ้น ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพป้องกันได้อย่างน้อยร้อยละ 50 ถึงจะอนุญาตนำมาใช้กับคนทั่วไปได้ ระหว่างรอวัคซีนคนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตัวในยุคนิวนอร์มัล สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆเหมือนเดิม"นพ.มนูญ กล่าว

หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC