นายกฯให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยสุโขทัย

2020-09-02 19:05:12

นายกฯให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยสุโขทัย

Advertisement

นายกฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย จ.สุโขทัย สั่งเร่งเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนภาคการเกษตรเสียหายกว่าแสนไร่ ยืนรัฐบาลดูแลคนทุกกลุ่ม

เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 2 ก.ย.ที่วัดคลองกระจง หมู่ที่ 3 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สุโขทัย เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระประธานหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดคลองกระจง (พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา) ณ อุโบสถวัดคลองกระจง เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพ ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดคลองกระจง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับประชาชนว่า มีความห่วงใยสถานการณ์ในทุกพื้นที่ โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จ.สุโขทัยประสบปัญหาอุทกภัยพื้นที่การเกษตรเกิดความเสียหายกว่าแสนไร่ ได้สั่งการให้เร่งเยียวยาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเกษตรและการประมง ซึ่งจากการบินสำรวจดูพื้นที่พบว่าจังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำการเกษตรแต่ติดปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะฉะนั้นประชาชนต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นการขุดลอกคลอง รวมถึงการดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมกับกำชับให้จังหวัดรับฟังความคิดเห็นว่าประชาชนต้องการอะไร ซึ่งทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ จัดลำดับความเร่งด่วนและความเหมาะสมกับงบประมาณ ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดช่วยสร้างความร่วมมือในลักษณะไทยสร้างชาติ

นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหาและนำมาแก้ไข ขอให้ประชาชนมีความหวัง และมีศรัทธาต่อรัฐบาล รัฐบาลพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และฝากประชาชนเตรียมพื้นที่กักเก็บน้ำในที่ดินของตนเอง เพื่อกักเก็บน้ำรองรับการเพาะปลูกในฤดูแล้ง ในส่วนของการทำการเกษตรต้องดูการตลาดเป็นหลัก มีการวางแผนตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจชาวสุโขทัยที่ประสบปัญหาอุทกภัยแบบซ้ำซากขอให้เดินหน้าแก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกรังเกียจผู้ที่มาร้องเรียน เข้าใจปัญหาดี และรักทุกคนเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บ้านเมืองต้องสงบ รัฐบาลพร้อมทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ แต่ก็มีข้อจำกัดของเวลา

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละทำงานด้วยความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ อสม. จนทำให้ติดอันดับ 1 ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 พร้อมทั้ง ขอให้ทำงานอย่างเข้มแข็งร่วมกับท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป ให้มีหัวใจที่ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมมือ รวมหัวใจและสองมือ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองดียิ่งขึ้นไป

ต่อมาเวลา 16.00 น. ณ บริเวณสะพานเมืองบางยม (ข้างวัดหนองโว้ง) หมู่ที่ 7 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพ พร้อมตรวจพื้นที่ความเสียหายจากอุทกภัย บริเวณบ้านของนายเรือง เขียวฤทธิ์ เลขที่ 55/1 ซึ่งบ้านถูกพัดพาจากกระแสน้ำเสียหายทั้งหลัง โดยส่วนราชการและกองทัพได้เข้ามาช่วยเหลือทำการปรับหน้าดิน และออกแบบก่อสร้างบ้านใหม่ให้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเสร็จสมบูรณ์

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวให้กำลังใจเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย และสอบถามความเป็นอยู่ โดยระบุว่า สมบัติสามารถที่จะหาได้ เพราะการทำความดีของเรา การที่น้ำมาเร็วก็นำมามาสู่ความเสียหาย ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามจะเน้นเรื่องของการเตือนภัย โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ริมน้ำ และขอให้ยึดพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ต้องเรียนรู้การอยู่กับน้ำ เพราะธรรมชาติห้ามไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง เพื่อทำการเกษตรต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ประเทศเกิดความขัดแย้งมายาวนาน ส่วนตัวจะไม่พยายามไปเป็นผู้ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยกัน รัฐบาลพร้อมดูแลทุกคน ทั้งนี้ ส.ส.ในพื้นที่ พรรคร่วมรัฐบาลทำงานเพื่อทุกคน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำเพื่อประชาชน โดยไม่ได้เจาะจงพื้นที่ใดเป็นพิเศษ แต่ต้องมองภาพกว้าง เพราะครอบครัวเราใหญ่ขึ้น ที่ต้องดูแลคนทุกกลุ่ม และทุกระดับ และขอให้ทุกคนยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐบาลยึดใน 3 อย่างนี้ มีประชาชนเข้าไปอยู่ด้วย ดังนั้น การลงพื้นที่ในวันนี้มาด้วยความรัก ความห่วงใย สิ่งไหนที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ก็ขอให้ช่วยกันแก้ไปก่อน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมกล่าวให้กำลังใจทหารที่มาช่วยเหลือชาวบ้านว่า ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน ทำให้ประชาชนรักอย่างมีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี