ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงมากความสามารถอีกคน “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” ที่ไม่ว่าจะเป็นบทไหนถ้าดีโดนใจสาวเบนซ์ รับหมดทุกบทแถมตีบทแตกกระจายตามที่ได้รับ ล่าสุดเจ้าตัวได้ขอพิสูจน์ความร้ายอีกครั้งกับบทของ "โมรี" ใน "เพลิงนาง" ที่เล่นได้เฉียบรับคำชมเพียบ ว่าแต่ลักกี้อินงานขนาดนี้ไม่รู้ว่าเรื่องหัวใจ สาวเบนซ์ ลักกี้ด้วยหรือเปล่า งานนี้รายการต้มยำอมรินทร์ เลยขอเชิญสาวเบนซ์มาอัพเดตสเตตัสกันสักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดหมดเปลือกแบบเสียงแผ่วๆ ในความโสด พร้อมประกาศลั่นว่าปีหน้าแต่งแน่ !! ถึงแม้ตอนนี้ไร้วี่แววเจ้าบ่าวก็ตาม
เป็นนางร้ายที่ห่วงผัวที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ ?
ดีใจมากๆ เลยกับตำแหน่งนี้ คือจริงๆ ในเรื่องเพลิงนาง คือเรามโนว่าเขาคือสามีเราคือเราคิดไปเองว่าเราจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาเป็นของเราเพราะ เรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มองใคร นอกจากเรา คือ ในเรื่องนี้จะเล่นเป็นแบบเรียบร้อยก่อนตอนแรก แต่เขาจะมีความร้ายตอนหลัง เพราะว่า พี่พลอย จะมาแย่งสามีเราแต่ตัวพี่ปีเตอร์ เองเขาไม่ได้ชอบเราอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เราคิดไปเองอะไรไปเอง พี่พลอย เขามายุ่งอีก เรามีความรู้สึกว่าไม่ฉันจะเอาคนนี้ เขาต้องเป็นของฉันอีกอย่างคือ เหมือนเราเป็นหมาหวงก้าง ถึงแม้เขาจะพูดออกมากลายๆว่าเขาไม่ได้ชอบเรานะ แต่เราก็ไม่ได้สนใจจ๊ะ เพราะฉันจะเอา แต่ได้ไม่ได้ต้องไปดูในละครเพราะฉันเริ่มก่อนจ๊ะ (หัวเราะ)
ได้ร่วมงานกับพี่พลอยครั้งแรกใช่ไหม ?
ครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันกับพี่พลอยเลย แล้วคือ ที่เจอกันฉากแรกคือเราพูดอยู่คนเดียวเลย 3 หน้า แล้วคือปะทะอารมณ์หนักมากกับพี่พลอย เถียงกัน ต้องดุเดือดเลย พี่พลอย เขาเป็นคนเล่นละครดีมาก เก่งมากเลย ก่อนเข้าฉากด้วยกันพี่พลอย เขาก็จะบอกเราว่าน้องใจเย็นๆ แต่พอ 45321 คุณมัมมาเต็มเลย คุณมัม จัดเต็มมาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะว่าเขาส่งมาเต็มเราก็ส่งกลับไปเต็มที่เหมือนกัน ก็มีความรู้สึกอยากบอกว่า เบนซ์ ขอบคุณพี่พลอยมากๆ เลย ถ้าไม่ได้มันจะปะทะอารมณ์กันไม่แรง
กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้างหลังจากที่ละครออกอากาศไป ?
ดีมาก เขาก็เรียกโมรีชื่อเราในละคร แล้วก็แท็กมาในอินสตาแกรม บางคนก็บอกว่า พี่เบนซ์ ไม่ธรรมดาเลยหนูไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้เลย เล่นได้แบบนี้
แต่มีข่าวแว่วมาว่าหลังจากจบละคร เพลิงนาง จะอำลาวงการไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนของตัวเองที่ต่างจังหวัด เพราะก่อนหน้าที่ทำงาน 7 วัน ไม่มีเบรก ?
ไม่ค่ะ ยังค่ะ ตอนนั้นที่ออกมา เรามีความรู้สึกว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วเราเลยได้คุยกับแม่ว่าอยากจะกลับไปเป็น ผอ.ที่โรงเรียนที่บ้าน ที่คุยกับแม่ไว้นะคะ จริงค่ะ
เพลิงนางคือละครเรื่องสุดท้ายแล้วถูกต้องไหม ?
โนค่า ยังมีอีก คือแค่ตอนนั้นเราเพราะออกมาเป็นนักแสดงอิสระ เราก็กังวลว่าเราออกมาผู้ใหญ่จะเมตตาเราไหมเรากลัวแบบนั้น เราคิดเองว่าจะไม่มีงานคือกลัวไปเอง คือ ตอนนี้นักแสดงที่เก่งๆ เกิดขึ้นและมีอยู่เยอะมาก เราเลยคิดว่าเราควรมีแผนสองสำรองไว้ เราเลยคิดเอาไว้ว่าถ้าเราไม่ได้ทำตรงนี้เราจะทำอะไรต่อไป ก็เลยคิดว่าเราอยากจะกลับไปเป็นผู้อำนวยการที่บ้านเรา ไปช่วยคุณแม่ เราก็เลยดูไว้ 1 ปีถ้าไม่มีงานแสดงเข้ามาเราก็จะกลับไป
แล้วสรุป 1 ปี นั้นมีติดต่อเข้ามาไหม ?
7 วันไม่มีวันหยุดเลยค่ะ เยอะมากเลยค่ะ สรุป 1 ปี ที่ผ่านมาเล่นประมาณ 11 ถึง 12 เรื่องค่ะ เรารับงานแสดงเยอะเกิน กลับบ้านไปมีบ้างวันอาเจียนเลย เหมือนว่าข้างในเรารับไม่ไหว ด้วยบทบาทที่เรารับมันเครียดด้วยกดันด้วย เพราะปีที่แล้วละครดราม่าเยอะ แล้วเป็นบทที่ร้องไห้เยอะ เหวี่ยงเยอะ แล้วอารมณ์มันหลากหลาย และด้วยความงกของเราเราก็รับหมด ไปรายการโน่นนี่ด้วย ใครติดต่ออะไรเข้ามารับหมดเลยจนไม่มีเวลา ขนาดทานข้าวยังต้องทานในรถเลย
เบนซ์ ปุณยาพร : เคยคิดว่าจะไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน แต่ว่าพอมาช่วงหลังเรานั่งสมาธิอยู่ที่บ้านจิตนิ่งๆสัก 1 นาที หรือแบบสวดมนต์ ก็ช่วยให้อาการตรงนั้นที่เกิดขึ้นกับเราบรรเทาลง เหมือนพอเรามีสติเราก็สามารถคุมจิตเราได้ด้วย ก็เลยคิดว่าไม่ต้องพึ่งหมอก็ได้พึ่งตัวเราเองก่อน แต่จริงๆ เราอยากจะไปคุยนะ แต่การที่เราไปพบจิตแพทย์ ไม่ใช่ว่าเราเป็นโรคนะแต่มันเหมือนเราได้ไประบายกับคุณหมอกับสิ่งที่มันอยู่ข้างในตัวเรา แต่เราก็ยังงกมากเหมือนเดิมนะคะ
แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกมหัศจรรย์มากคือ ทำงานเยอะ นอนก็น้อย แต่หุ่นเป๊ะมาก ?
คือเป็นคนที่โชคดีมากกว่าค่ะ ที่ทานแล้วไม่อ้วน แล้วก็อาจจะเป็นคนที่กระดูกเล็กอยู่แล้ว แต่เราก็ออกกำลังกายบ้างเพื่อให้รูปร่างเรากระชับ ให้เฟิร์ม
เพราะทานยังไงก็ไม่อ้วนแบบนี้เลยคิดอยากจะเปิดร้านชานมไข่มุก ?
ชานมไข่มุกอันนี้จะเป็นแบบเฮลตี้นะ ที่รักสุขภาพ หรืออยากจะหวานมัน เราก็สามารถทำให้ได้ค่ะ เพื่อให้เป็นทางเลือก แต่อร่อยแน่นอน แต่สำหรับคนลดน้ำก็สามารถทานได้เหมือนกัน คิดว่าแน่จะเปิดปลายปีค่ะ ตอนนี้กำลังคิดชื่อร้านอยู่ค่ะ
สิ่งหนึ่งที่เบนซ์ กลัวมากที่สุดในชีวิตคือ กลัวจะไม่ได้แต่งงานก่อนอายุ 36 ทำไมต้อง 36 เพราะตอนนี้ตัวเอง 35 แล้ว ...
คือแบบนี้ค่ะ เพราะว่ามีคนทักว่าถ้าอายุเรา 36 แล้วจะไม่มีโอกาสแต่งงานแล้วนะ แล้วด้วยช่วงอายุของเราช่วงหนึ่ง คือจริงๆ แล้วตัว เบนซ์ เองการที่เราได้อยู่กับเพื่อนไปเที่ยว ได้ทำงานมันมีความสุขแล้ว เราไม่ต้องแต่งงานก็ได้ แต่พอเราโตขึ้น ตายแล้วเพื่อนๆ รอบตัวของเราแต่งงานไปหมดแล้วเราก็อยากจะแต่งบ้าง แล้วยิ่งพอหมอดูทักเราถ้าไม่แต่ง 36 เราจะไปไกลมากแค่นั้นเอง
แล้วถ้าไม่สนใจที่หมอดูพูดเราเป็นคนที่อยู่คนเดียวได้ไหม ?
ไม่ได้ ติดเพื่อน
แล้วนอกจากเพื่อนมีคนให้ติดไหม ?
ก็สวยๆ แบบนี้มีคนให้ติดบ้าง (หัวเราะ) เป็นผู้หญิงก็ต้องเลือกบ้างนะคะ ถ้าจะเปิดตัวคงเป็นตอนที่แต่งงานเลย
ทำไมไม่ชอบเปิดตัวแฟน ?
คือเบนซ์คิดว่าถ้าคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับเบนซ์จริงๆ แล้วก็ เดินไปใช้ชีวิตด้วยกันจนถึงแต่งงานได้ เราค่อยเปิด เพราะเราไม่อยากจะเปิดแล้วเลิกกัน ต้องมีนั่งพูดอีกว่าเลิกกันเพราะอะไร แล้วเราเป็นคนที่อยากคบเป็นคนๆไม่ชอบใช่ผู้ชายจริง เรามองถึงว่าคนนี้คือพ่อของลูกเราได้หรือเปล่า
แล้วมีหรือยัง ?
ดูๆ ไปก่อนค่ะ
