เบรุต, 31 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (30 ส.ค.) คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียตะวันตก (ESCWA) รายงานว่า ภายในสิ้นปีนี้ ประชากรเลบานอนมากกว่าครึ่งมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถเข้าถึงอาหารขั้นพื้นฐาน
คณะกรรมการฯ ระบุว่าปัญหาขาดแคลนอาหารเป็นผลพวงจากการที่เลบานอนต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรภายหลังเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือเบรุต ซึ่งเป็นจุดขนส่งสินค้าที่สำคัญของประเทศ
นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเงินปอนด์ของเลบานอนอ่อนค่าลงมากถึงร้อยละ 78 ขณะที่อัตราความยากจนและการว่างงานก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โรลา แดชตี (Rola Dashti) เลขาธิการคณะกรรมาธิการฯ เรียกร้องรัฐบาลเลบานอนเร่งสร้างคลังอาหารขึ้นใหม่ที่ท่าเรือเบรุตเป็นอันดับแรก ในฐานะทรัพย์สินของชาติด้านความมั่นคงทางอาหาร พร้อมฟื้นฟูคลังยากลางและรับประกันการจัดหายาและวัคซีนที่จำเป็นอย่างต่อเนื่องสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุด
แดชตีระบุเพิ่มเติมว่า “ทางการควรบังคับใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันวิกฤตด้านอาหาร อาทิ ยกระดับการตรวจสอบราคาอาหาร กำหนดราคาเพดาน และส่งเสริมการขายจากผู้ผลิตในท้องถิ่นไปยังผู้บริโภคโดยตรง”
