โลกออนไลน์แห่แชร์ "น้องแมว" แปลงร่างเป็น "ปิกาจู" เจ้าของเผย "เชื้อรา" เป็นเหตุ จึงทาขมิ้นฆ่าเชื้อจนเหลืองอร่ามไปทั้งตัว
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ "ตุ้มเม้งแมวแพนด้า&คาพ้วงแมวเชื้อรา" โพสต์ภาพแมวสีทองอร่าม พร้อมระบุข้อความว่า เด็กๆ เป็นเเมว
โตมาเป็นเชื้อรา เลยลองย้อมขมิ้นรักษาเชื้อราเเมว หายไหมยังไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือ เหลืองเเล้วไม่หาย ตอนนี้เกิดกระแสพากันหมักขมิ้นตาม "คาพ้วง" จะอธิบายก่อนว่าลองรักษาแบบวิธีปกติเเล้ว พ้วง ไม่หาย และแผลลามเป็นวงกว้าง แเต่พอพ้วง มาพอกขมิ้น พ้วงเลยไม่เลีย พ้วงเลยแผลไม่ลามเป็นวงกว้าง ดังนั้นพี่ๆ คนไหนจะพอกขมิ้น อยากให้ลองรักษาด้วยวิธีพอกแชมพู มาลาเซป ก่อน หาข้อมูลจากกลุ่มแมว หรือ ปรึกษาสัตวแพทย์ก็ได้ ซึ่งพ้วง อาจหายเพราะภูมิของพ้วง เอง อย่าเพิ่งหาทำตามพ้วง เพราะพ้วง ก็ยังเป็นเชื้อราอยู่เลย จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ต่อมามีเพจเฟซบุ๊กจากต่างประเทศ นำรูปน้องค้าพ้วง ไปลง จนเกิดการวิพากาษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง แต่ทีคนไทยที่คิดตามเพจ 9Gag เข้าไปอธิบายให้ฝรั่งเข้าใจถึงเรื่องการรักษาของไทยด้วยใช้ขมิ้นย้อมสี "คาพ้วง" ขอบพระคุณจริงๆ ซาบซึ้งใจมากๆ ถ้าคาพ้วง โกอินเตอร์เนชั่นแนลเเล้ว คาพ้วง จะซื้อของที่สำเพ็งมาฝากนะ ไทยแล้นน ส่วนภาพคาพ้วง ที่เหมือน ปิกาจู เพราะใช้แอพพลิเคชั่น และใส่ฟิลเตอร์ที่แก้มให้ค้าพวง
อย่างไรก็ตาม หลังมีการเผยแพร่น้องแมว สุดน่ารักออกไปในโลกโซเชียล ส่งผลให้มีคนเข้ามาชื่นชมความน่ารักของค้าพวง เป็นจำนวนมาก แต่หนึ่งในผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายหนึ่ง ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า มีเว็บไซต์ของคุณหมอเวบไซต์หนึ่ง บอกว่า สำหรับวิธีที่ถูกต้อง หากพบว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ผู้เลี้ยงควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างถูกวิธีจึงจะดีที่สุด หากจะนำขมิ้นชันมารักษา ผู้เลี้ยงควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ เพราะสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวมีลักษณะของผิวหนังที่แตกต่างกัน และควรต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อขมิ้น ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าขมิ้นชันนั้นปลอดภัยหรือไม่ เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหากับสัตว์เลี้ยงได้