รายงานผลการศึกษาวิจัยล่าสุด ตีพิมพ์เผยลงในวารสารการแพทย์อังกฤษ British Medical Journal ได้ข้อสรุปว่า “ไม่มีคาเฟอีนในระดับปลอดภัย สำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์”
การศึกษาวิจัยของคณะผู้เชี่ยวชาญ นำโดย ศาสตราจารย์แจ็ค เจมส์ แห่งมหาวิทยาลัยเรคยาวิก ในไอซ์แลนด์ พบว่า คาเฟอีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกาแฟ ไม่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือที่กำลังพยายามตั้งครรภ์ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปรับปรุงแก้ไข คำแนะนำ ครั้งใหญ่
ศ.เจมส์และคณะดำเนินการวิจัย จากการรวบรวมข้อมูล ผลการศึกษา 48 รายการ เกี่ยวกับ การแท้งบุตร ทารกเสียชีวิตในครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวต่อผิดปกติหลังคลอด รวมทั้งภาวะโรคอ้วน และมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันในเด็ก ซึ่งพบว่า การศึกษา 32 รายการพบคาเฟอีนเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเหล่านี้อย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นการคลอดก่อนกำหนด และโรคอ้วนในเด็ก
แต่ผลการศึกษาหลายรายการแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงอย่างเด่นชัด ระหว่างคาเฟอีนกับเด็กทารกน้ำหนักตัวสูงเกินปกติ
เป็นที่ทราบกันดีว่า ผลข้างเคียงของการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป มีหลากหลายนับตั้งแต่ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไปจนถึงหัวใจเต้นเร็ว และเหงื่อออก แต่จนถึงปัจจุบัน หน่วยงานด้านสาธารณสุขในสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า การบริโภคคาเฟอีน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก
ผลการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคาเฟอีนโลก ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 202,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,354,710 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2561 และจากการประเมินของมูลนิธิกาแฟอังกฤษ หรือ บีซีเอฟ (British Coffee Foundation) ปัจจุบันประชาชนทั่วโลกดื่มกาแฟ รวมกันประมาณ 500,000 ล้านถ้วย (500 billion cups) ในแต่ละวัน โดยในกาแฟ 1 ถ้วย มีคาเฟอีนโดยเฉลี่ยประมาณ 100 มิลลิกรัม.