"พิจารณ์" ซัด ทร.พูดแต่โควิด ไม่เอ่ยถึงวิกฤต ศก.สักคำ

2020-08-24 18:55:45

"พิจารณ์" ซัด ทร.พูดแต่โควิด ไม่เอ่ยถึงวิกฤต ศก.สักคำ

Advertisement

"พิจารณ์" ซัด ทร.พูดถึงแต่โควิด แต่ไม่เอ่ยปากถึงวิกฤตเศรษฐกิจซักคำ 

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล  ซึ่งไปสังเกตการณ์กองทัพเรือ (ทร.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวในหัวข้อ "เหตุผลความจำเป็นในการจัดหาเรือดำน้ำ" ได้ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นและส่งคำถามไปยังตัวแทนกองทัพเรือ ว่า  วันนี่้ตนมาในฐานะพรรคการเมือง เห็นว่า ประเด็นที่บางพรรคออกมาชี้แจง จะถูกต้องหรือไม่อย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของกองทัพเรือที่จะออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบอยู่แล้ว ในฐานะที่ตนนั่งอยู่ในห้องอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ยืนยันว่า นักการเมืองที่ออกมาแถลงข่าวได้แถลงตามเนื้อหาที่ได้รับจากการนำเสนอ เมื่อสักครู่มีสไลด์การนำเสนอที่ไม่เคยปรากฏในชั้นอนุกรรมาธิการ ตนคิดว่าท่าทีของกองทัพต่อนักการเมืองคนใดหรือพรรคการเมืองใด ท่านเป็นกองทัพต้องจำเป็นต้องทำตัวเป็นกลาง ชี้แจงข้อเท็จจริง ลักษณะคำพูดเหน็บแนม ลดทอนคุณค่า มิได้ทำให้กองทัพเรือได้รับคำนิยมชมชอบมากกว่าเดิมจากประชาชน

ในส่วนของเนื้อหานั้น  นายพิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่า ตัวแทนกองทัพเรือพูดคำว่าโควิดบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการกล่าวถึงวิกฤตเศรษฐกิจในคำชี้แจงเลย ทุกวันนี้ สังคมพูดถึงการลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณ มีการพูดถึงว่า สมมติอนุกรรมาธิการยกมือไม่ผ่านงบการจัดซื้อเรือดำน้ำ ก็อยู่ที่กองทัพเรือว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ หากเลือกที่จะอุทธรณ์ก็จะขึ้นกับกรรมาธิการชุดใหญ่ในการมีมติเห็นชอบอย่างไน หากงบประมาณนี้ไม่ได้ใช้ เรียกว่า ในวันพุธที่ 26 ส.ค. มีการหยิบยกโครงการนี้ขึ้นมาพูดใหม่ หากที่ประชุมมีมติให้ 3,925 ล้านบาทนี้ เลื่อนไปก่อนในปีหน้า งบประมาณก็จะกลับสู่งบประมาณให้อนุกรรมาธิการทุกคณะนำมาตัดก้อนหนึ่งสำหรับโครงการต่างๆ หลายหน่วยงานก็จะอุทธรณ์ แปรญัตติของบเข้ามาใหม่

นายพิจารณ์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกองทัพเรือประเทศไทยกับมาเลเซีย ซึ่งทางตัวแทนกองทัพเรือยกมาว่า มาเลเซียมีถึง 2 ลำ เราจึงควรมีบ้าง ซึ่งหากพิจารณาอีกมุมหนึ่ง จะพบว่า กองทัพเรือมาเลเซียใช้งบประมาณรองรับบุคลากรทั้งหมด 15,000 นาย ในขณะที่ไทยนั้นสูงถึง 75,000 นาย ต่อปีไทยใช้งบถึง 20,001 ล้านบาท จากนั้นจึงได้ตังคำถามต่อกองทัพเรือไว้ ดังนี้ ท่านมีแนวทางที่จะจัดสรรงบประมาณที่ท่านมีอยู่อย่างจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการลดงบประมาณบุคลากรที่สูงถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ของงบกองทัพเรือทั้งหมดหรือไม่ เพราะโดยเฉลี่ยหน่วยงานในประเทศไทยงบประมาณบุคลากรอยู่ที่ 26 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถ้าหากลดงบประมาณในส่วนนี้ได้ ก็จะช่วยเพิ่มช่องว่างให้มีเงินในการจัดสรร เตรียมพร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการรบมากขึ้น