รอง ผบช.น.ยอมรับ เซ็นคำสั่งเตรียมรถตัดสัญญาณโทรศัพท์ม็อบ หวั่นเกิดเหตุไม่คาดฝันกับกลุ่มผู้ชุมนุม
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ภาพเอกสารคำสั่งให้มีการจัดรถอุปกรณ์ต่อต้าน และตัดสัญญาณการสื่อสารรอบพื้นที่การชุมนุมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า หนังสือดังกล่าวตนเป็นคนออกคำสั่งจริง ซึ่งไม่ใช่เอกสารลับแต่อย่างใด เพราะตำรวจต้องเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม หากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมยืนยันรถอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะละเมิดสิทธิ์เสรีภาพของผู้ชุมนุม แต่ที่เตรียมเอาไว้เผื่อกรณีพบวัตถุต้องสงสัย ก็จะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างท่วงทีา พร้อมยืนยันว่าไม่มีความกังวลกับเอกสารที่หลุดออกไป
รอง ผบช.น. ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่มีการออกหมายจับไป 15 ราย มีการจับกุมแล้ว 11 ราย ยังเหลืออีก 4 ราย ซึ่งมีการประสานมาแล้วแต่ยังไม่เข้ามามอบตัวตามนัดหมาย ส่วนหมายเรียกอีก 15 รายยังไม่ได้รับการประสานว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของหมายเรียก เป็นข้อหาที่อยู่ในศาลแขวงมีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี เช่น ความผิดตาม พ.ร.บ. ความสะอาด หรือ พ.ร.บ.การควบคุมโรค ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย จากการตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายมาตรา 116 ที่ต้องถึงขั้นออกหมายจับ เพราะเป็นเพียงความผิดเล็กน้อย จึงอาจเชิญตัวมาเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ
ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวานนี้ ที่ลานคนเมือง พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีแกนนำคนใดที่ศาลให้ประกันตัวโดยตั้งเงื่อนไขห้ามเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งกระทำความผิดซ้ำ คือ ไปเข้าร่วมกาชุมนุมบ้าง หากพบว่ามีแกนนำคนใดทำผิดเงื่อนไขของศาล ก็จะ ยื่นเรื่องขอให้ศาลเพิกถอนการประกันตัวต่อไป เช่นเดียวกับนายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก ที่ถูกตำรวจยื่นเพิกถอนการประกันตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งศาลนัดไตร่สวนในวันที่ 3 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์การชุมนุมจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีการพยายามใช้ความรุนแรง จึงยังไม่มีความกังวลใดกับการชุมนุม