ผู้ใหญ่บ้านหื่นหนีหายจากบ้าน ออกตามหาให้มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ติดต่อไม่ได้

2020-08-24 11:45:48

ผู้ใหญ่บ้านหื่นหนีหายจากบ้าน ออกตามหาให้มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ติดต่อไม่ได้

Advertisement

ผู้ใหญ่บ้านหื่นหายตัวล่องหน ชมรมกันนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกตามหาตามคำสั่งนายอำเภอให้มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ติดต่อไม่ได้ เจ้าของร้านอาหารจุดนัดหมาย เผยเห็นทั้ง 2 คนคุยกันปกติ ส่วนลึกซึ้งแค่ไหนไม่รู้ ด้านเมียผู้ใหญ่บอกไม่รู้หายไปไหน

วันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงความคืบหน้ากรณี ที่ น.ส.แอน อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 12 บ.หนองเหล็ก ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า ผู้ใหญ่บ้าน อ.สนม ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา กระทำอนาจารกับร่างกาย ด้วยการกัดดูดจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์ด้วยกัน ในร้านอาหาร ชื่อ "ร้านยายนาตาเฒ่า” ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะชวนกันไปดื่มต่ออีกหมู่บ้านหนึ่งและกลับมาดื่มที่บ้านญาติของผู้ใหญ่อีกครั้ง ในช่วงค่ำผู้เสียหายจึงนอนหลับด้วยอาการเมา และมารู้สึกตัวอีกทีในช่วงตี 2 เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่า เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกไปจนหมด เหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว และยังพบผู้ใหญ่บ้าน นอนเปลือยกายอยู่ข้างๆ ผู้เสียหายจึงรีบใส่เสื้อผ้า แต่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ก็ยังพยายามลวนลามและอนาจารอผู้เสียหายอยู่ จนผู้เสียหายต้องค่อยๆพูดดีๆเพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านหยุดพฤติกรรมดังกล่าว และเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ยังไม่ได้มีสัมพันธ์ทางเพศแต่อย่างใด ก่อนที่จะรุ่งสางผู้เสียหายจึงไหว้วานให้ผู้ใหญ่บ้านขับรถไปส่งที่บ้าน และพบว่าร่างกายมีรอยเขียวช้ำไปทั่ว

จากนั้นเมื่อวันที่ 23 ส.ค. เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม เจ้าของคดี ได้เรียกผู้เสียหายเข้าไปสอบสวนและเอาหลักฐาน ก่อนที่เวลา 11.40 น. น.ส.วันเพ็ญ หาญเสมอ นาย อ.สนม ได้เชิญผู้เสียหายเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะเรียกตัวผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนอีกครั้ง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัยต่อไป




ขณะที่ในช่วงเวลา 12.00 น. ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ได้แสดงตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายแจ้งความไว้ ด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบเสียก่อน โดยในเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหา ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาลต่อไป ก่อนจะออกจากห้องสอบสวนเวลาประมาณ 13.00 น.และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆว่า มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวเกินความจริง โจมตีตนเองฝ่ายเดียว ตนขอสู้คดี เอาความถูกต้องไปวัดกันที่ศาลต่อไป

ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว จาก น.ส.วันเพ็ญ หาญเสมอ นาย อ.สนม ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานปกครอง ดูแลในเรื่องวินัยกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กับผู้ใหญ่บ้านผู้ถูกกล่าวหา แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ และได้ให้ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ตามหาตัวเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกด้าน แต่ก็ไม่พบตัว ส่วนผู้เสียหายได้เดินทางมาให้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้หากตามตัวพบ และทำการสอบสวน เมื่อพบว่ามีความผิดจริง ก็จะเสนอผู้ว่าตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป ซึ่งเราจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย



จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านอาหาร ชื่อ”ร้านยายนาตาเฒ่า” ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้าน พบกับเจ้าของร้าน คือ นายสุธิพงษ์ ปัสสารี อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนก็เห็นทั้ง 2 คนดื่มเหล้ากันปกติ จนถึงบ่ายสามเกือบบ่ายสี่ เดิมทีผู้เสียหายมาสั่งข้าวกินก่อน สักพักผู้ใหญ่ขับรถมาจากไหนไม่รู้ จึงเรียกผู้ใหญ่มากินด้วย แซวเล่นกัน ก็มานั่งกินด้วยกัน จนประมาณถึง 4 โมง 10 นาที ผู้ใหญ่จึงขับรถออกไปเอาเหล้ามา 1 แบน และเอาโซดามาดื่มกับเอ็มร้อย ตนก็ทำกับข้าวไป สักพักผู้เสียหายโทรตามเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อน มาทานข้าวไม่ได้ดื่มเหล้า จากนั้นผู้ใหญ่ก็ชวนไปธุระ ตนได้ยินไม่ชัดเจนว่าไปไหน จากนั้นก็ขึ้นรถไปด้วยกัน 3 คน แต่ไม่รู้ว่าไปไหนต่อ ตนไม่ค่อยได้คลุกคลีกับผู้ใหญ่ แต่เป็นลูกค้าประจำที่นี่ นิสัยก็ปกติ ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นลูกค้าประจำเหมือนกัน แต่นิสัยลึกๆตนเองไม่รู้ ตนก็เห็นทั้ง 2 คนคุยกันปกติ ไม่รู้ว่าสนิทกันขนาดไหน

ด้าน น.ส.สุนีย์ บุญปัญญา อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยสั้นๆว่า ไม่ทราบว่าสามีของตนเองหายไปไหน