ตร.พิษณุโลก ลงพื้นที่ไล่ล่า"คนร้าย"ขับรถตู้ไล่จับเด็ก นร.

2020-08-21 16:30:52

ตร.พิษณุโลก ลงพื้นที่ไล่ล่า"คนร้าย"ขับรถตู้ไล่จับเด็ก นร.

Advertisement

ตร.พิษณุโลก ลงพื้นที่เร่งหาหลักฐานเพื่อจับกุม "คนร้าย" ขับรถตู้ ก่อเหตุฉุดเด็กนักเรียนบ้านคลองเป็ด

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีคนรายขับรถตู้พยายามจับนักเรียนที่หมู่บ้านคลองเป็ด ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แต่โชคดีที่เด็กปัดสะบัดหนีออกมาได้ แต่บาดเจ็บเล็กน้อย โดยเหตุการณ์นี้มีเด็กนักเรียนที่เคยถูกรถตู้พยายามจับตัวมาแล้วถึง 3 ราย แต่ก็หนีออกมาได้ทุกราย ทำให้หลายฝ่ายต้องช่วยกันเฝ้าระวัง พร้อมแจ้งเตือนเด็กภายในหมู่บ้าน และโรงเรียนบ้านคลองเป็ด






ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านคลองเป็ด เพื่อพบกับคณะครูอาจารย์ ซึ่งยังคงสอนเด็กนักเรียนตามปกติ โดยนางสายรุ้ง คำพุฒ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองเป็ด เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำให้ครูทุกคนคอยดูแลเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กนักเรียนหลายคนยังมีอาการหวาดกลัวเรื่องคนรายขับรถตู้ไล่จับเด็กอยู่ นอกจากนี้ยังกำชับคุณครู เจ้าหน้าที่ และนักการภารโรง ให้คอยเฝ้าสังเหตคนแปลกหน้าที่เข้า-ออกโรงเรียน รวมทั้งจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ในโรงเรียน 4 ตัว โดยจะติดเพิ่มอีก 2 ตัวที่หน้าโรงเรียน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ตนเรียกนักเรียนที่ประสบเหตุมาสอบถามรายละเอียดแล้ว จึงทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวอาจขับรถไปบียดรถของนักเรียน ซึ่งไม่ได้เป็นการฉุดแต่อย่างใด แต่ก็ต้องระวังเอาไว้เพราะอาจทำมิดีมิร้ายเด็กนักเรียนได้

ด้าน นางบุญเยี่ยม บัณฑิต อายุ 78 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านคลองเป็ด ยืนยันว่า ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้ว ตนจึงคอยตักเตือนลูกหลานให้เฝ้าระวัง โดยหากมีคนแปลกหน้ามาให้ขนม หรือให้ของกิน แล้วให้ไปขึ้นรถ ก็อย่าไปเชื่อ ที่ผ่านมาคิดว่าไม่ใช่รถตู้อย่างเดียว มีรถเก๋งที่มาก่อเหตุด้วย






ขณะที่ พ.ต.ท.เอกภพ พรมราช รอง ผกก.สส.สภ.วังทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านเพื่อหาร่องรอยว่าคนขับรถตู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ จากการสอบถามชาวบ้านยังมีข้อมูลที่ขัดแย้งกันอยู่ บางคนบอกว่าเป็นรถเก๋ง บางคนก็บอกว่าเป็นรถตู้ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และเตรียมสอบถามเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุ เพื่อนำมาประเมินผลอีกครั้ง