รอง ผบช.น.แจงยิบ ยืนยันจับ"แกนนำม็อบ"ทำตาม ก.ม.

2020-08-20 18:00:04

รอง ผบช.น.แจงยิบ ยืนยันจับ"แกนนำม็อบ"ทำตาม ก.ม.

Advertisement

รอง ผบช.น. แถลงแจงเหตุผลจับ "แกนนำม็อบ" เหตุเพราะมีคนแจ้งความร้องทุกข์จึงต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

เมื่อวันนี้ 20 ส.ค. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงชี้แจงกรณีจับกุมแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมตามหมายจับศาลอาญา แบ่งเป็น กรณีการจัดกิจกรรมเสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งพบว่าบางส่วนจัดกิจกรรมละเมิดกฎหมาย และมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ชนะสงคราม ต่อมาปรากฏหลักฐานว่า นายอานนท์ นำภา หนึ่งในผู้ปราศรัย กระทำความผิดกฎหมายอาญาจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ ก่อนที่จะเข้าควบคุมตัวนายอานนท์ เมื่อวานนี้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ, เป็นผู้ร่วมจัดการชุมนุมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ จากนั้นนำตัวนายอานนท์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า จากนั้นในวันที่ 18 ก.ค. กลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดกิจกรรมเรียกร้องประเด็นต่างๆ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยพบว่าการจัดกิจกรรมมีการกระทำผิดกฎหมาย และมีคนไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งปรากฏพยานหลักฐานว่า มีแกนนำหลายรายกระทำผิดกฎหมายอาญา จึงขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ ก่อนจับกุมแกนนำ 3 ราย คือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแกนนำตามหมายจับศาลอาญา เพิ่มเติมอีกจำนวน 8 ราย ประกอบด้วย นางสุวรรณา ตาลเหล็ก, นายบารมี ชัยรัตน์, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นายทศพร สินสมบุญ, นายเดชาธร บำรุงเมือง, นายธานี สะสม, นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ และนายธนายุทธ ณ อยุธยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง




นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจร, ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร, ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ยกเว้น นายทศพร สินสมบุญ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ เฉพาะนายทศพร สินสมบุญ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญาเช่นกัน

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลขอเรียนให้ทราบว่า การดำเนินคดี และการจับกุมแกนนำที่จัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกจับกุม ซึ่งได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายและแจ้งสิทธิก่อนควบคุมตัว ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ยังไม่ได้จับกุมแกนนำหรือผู้ร่วมชุมนุมแต่อย่างใด