สั่งด่วน! “4 มาตรการ” เร่งหาสาเหตุ ช่วยเหลือหอทรุด

2020-08-20 17:20:27

สั่งด่วน! “4 มาตรการ” เร่งหาสาเหตุ ช่วยเหลือหอทรุด

Advertisement

รองผู้ว่าฯ สั่ง 4 มาตรการ หาสาเหตุและช่วยเหลือหอทรุด ด้านนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ตรวจวัดค่าความทรุดตัว ผู้ว่าฯ รุดให้กำลังใจ

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 20 ส.ค.นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย ตัวแทนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหาแนวทางในการตรวจสอบสาเหตุของการทรุดตัวอาคารหอพักและแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ณ ห้องประชุม อบต.พันท้ายนรสิงห์ โดยเบื้องต้นได้ข้อสรุป 4 ข้อคือ 1.หาวิธีการให้ผู้เช่าห้องพักแต่ละห้องเข้าไปเอาสิ่งของมีค่าและทรัพย์สินที่จำเป็นภายในออกมาก่อน เช่น เสื้อผ้า เงิน ทอง และเอกสารสำคัญ โดยจะให้ทุกห้องลงทะเบียนชื่อ และทรัพย์สินภายใน จากนั้นจะอนุญาตให้เข้าทีละห้อง ห้องละ 1 คนเท่านั้น ซึ่งเจ้าของห้องจะเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย ต้องเข้าให้เร็วที่สุดและออกให้เร็วที่สุด ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ จะให้ทีมกู้ภัยไปนำออกมาให้ภายหลัง 2.จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องแบบแปลนอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2557 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2559

3.จัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบหาสาเหตุให้เจอภายในระยะเวลา 2 วัน แล้วต้องสรุปให้ได้ว่าสาเหตุที่อาการทรุดตัวเกิดจากอะไร และ 4. อบต.จัดทำประกาศเป็นพื้นที่อุบัติภัย จากนั้นให้มีการนำงบกลางเข้ามาช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ๆ พึงกระทำได้ นอกจากนี้ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปภายในทั้งสิ้น ยกเว้นจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ขณะที่ทางด้านของเจ้าของหอพักคือคุณป้าเยี่ยม กลัดเจริญ ก็ได้มอบเงินให้กับผู้เช่าห้องพักคนละ 400 บาท ที่ไม่ได้ไปทำงานเฉพาะในวันนี้ และมีการจัดเลี้ยงอาหารทุกมื้อไปจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย




จากนั้นนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะได้ลงพื้นที่มาเยี่มมเยียนผู้ประสบภัยจากเหตุหอพักทรุดตัว ซึ่งมีทั้งหมดเกือบ 60 ชีวิต ได้ปักหลักอยู่ที่บ้านของนางเยี่ยม กลัดเจริญ เจ้าของหอพัก เพื่อให้กำลังใจและบอกถึงแนวทางการปฏิบัติงานเบื้องต้นที่จะอนุญาตให้เข้าไปเอาทรัพย์สินได้

พร้อมกันนี้ก็ยังมี ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์อาคารหอพักทรุดอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นทางด้านของ ดร.ธเนศ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบแล้วนั้น ก็ได้นำเครื่องมือที่มีการตรวจวัดอย่างละเอียดแม่นยำและให้ความชัดเจน จากทางเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ก่อน จึงจะบอกได้ว่าควรจะให้เข้าไปเอาทรัพย์สินภายในหรือไม่ ซึ่งขอใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง หากพบว่าไม่มีการทรุดตัวเพิ่ม หรือทรุดตัวไม่เกิน 0.20 มิลลิเมตร ก็ให้เข้าไปได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ไม่สามารถที่จะอนุญาตให้เข้าไปภายใน เพราะว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับทุกคน ขณะที่ในส่วนของสาเหตุนั้น เมื่อดูจากการทรุดตัวแล้วคาดการณ์ว่า อาจจะมาจากเรื่องของแหล่งน้ำที่อยู่ติดกับตัวอาคาร ทำให้เกิดการบิดตัวของโครงสร้าง จนเกิดการทรุดดังกล่าว แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอผลการตรวจสอบและสรุปที่ชัดเจนต่อไป



ต่อมาเวลา13.30น.นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาครได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมให้ความช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำสิ่งของภายในห้องผู้พักอาศัยในหอจำนวนทั้งหมด29ห้อง หลังจากสถานการณ์มีความปลอดภัยจากการเกิดเหตุซ้ำ โดยปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย